โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง แหล่งรวมของสะสม มากมายให้เลือกซื้อขาย

หมวดหมู่ทั่วไป => พสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง แหล่งรวมของสะสม มากมายให้เลือกซื้อขาย => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 23:31:45 น.

หัวข้อ: โรคปอดอักเสบ (Pneumonitis) อีกชื่อของปอดบวม อันตราย
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 23:31:45 น.
โรคปอดอักเสบ (Pneumonitis) อีกชื่อของปอดบวม อันตราย (https://doctorathome.com/disease-conditions/151)

ถูกต้องครับ โรคปอดอักเสบ (Pneumonitis) เป็นคำที่ใช้เรียกการอักเสบของเนื้อปอดโดยรวม ซึ่งมักเป็นชื่อที่ใช้เรียกสลับกับคำว่า ปอดบวม (Pneumonia) ในบางบริบท และเป็นภาวะที่จัดว่าอันตราย โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

โรคปอดอักเสบ (Pneumonitis) และ ปอดบวม (Pneumonia) คืออะไร?

แม้จะใช้เรียกสลับกันได้ แต่ในทางการแพทย์บางครั้งก็มีการจำแนกความแตกต่างเล็กน้อย:

Pneumonia (ปอดบวม/ปอดอักเสบติดเชื้อ): มักหมายถึงการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อรอบๆ ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อเป็นหลัก (เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา) ทำให้ถุงลมปอดเต็มไปด้วยของเหลวและหนอง ทำให้แลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ไม่ดี

Pneumonitis (ปอดอักเสบ/ปอดอักเสบไม่ติดเชื้อ): เป็นคำที่กว้างกว่า หมายถึงการอักเสบของเนื้อปอดหรือทางเดินหายใจส่วนปลาย อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อก็ได้ เช่น การสูดดมสารเคมี ฝุ่นละอองบางชนิด การแพ้ยา หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง

อย่างไรก็ตาม ในการสนทนาทั่วไป หรือในภาษาไทย "ปอดอักเสบ" และ "ปอดบวม" มักถูกใช้แทนกันได้ และหมายถึงการอักเสบของปอดที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ


สาเหตุหลักของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อ แต่ก็มีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ปอดอักเสบได้:

การติดเชื้อ (Infectious Pneumonia):

แบคทีเรีย: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดและมักทำให้เกิดอาการรุนแรง เช่น Streptococcus pneumoniae (เชื้อนิวโมค็อกคัส), Haemophilus influenzae, Mycoplasma pneumoniae

ไวรัส: เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus), ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus), ไวรัสโคโรนา (รวมถึง SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิด COVID-19), ไวรัส Adenovirus

เชื้อรา: พบได้น้อยกว่า ส่วนใหญ่ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ปรสิต: พบน้อยมาก

การไม่ติดเชื้อ (Non-infectious Pneumonitis):

การสูดดมสารระคายเคือง/สารเคมี: เช่น ควันไฟ ควันพิษ ไอกรด แก๊สพิษ

การสำลัก: สำลักอาหาร น้ำ หรือกรดจากกระเพาะอาหารเข้าไปในปอด

การแพ้: เช่น ปอดอักเสบจากการแพ้สารบางอย่าง (Hypersensitivity Pneumonitis) เช่น เชื้อราในที่อับชื้น ฝุ่นจากสัตว์

ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดปอดอักเสบ

โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Diseases): เช่น โรคเอสแอลอี (SLE), โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ปอดได้


อาการของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม

อาการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย แต่โดยทั่วไปจะพบอาการเหล่านี้:

ไอ: อาจมีเสมหะหรือไม่ก็ได้ เสมหะอาจมีสีเหลือง เขียว หรือมีเลือดปน

มีไข้: อาจมีไข้สูง หนาวสั่น

หายใจหอบเหนื่อย: รู้สึกหายใจลำบาก หายใจถี่ หรือเจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึกๆ

เจ็บหน้าอก: โดยเฉพาะเวลาไอหรือหายใจเข้าลึกๆ

อ่อนเพลีย: เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง

อาการอื่นๆ: ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือเบื่ออาหาร

ในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง: อาจมีอาการไม่ชัดเจน เช่น เพียงแค่ซึมลง สับสน อ่อนเพลียมาก โดยไม่มีไข้หรือไอที่ชัดเจน

ความอันตรายของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม
โรคปอดอักเสบ/ปอดบวมเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง หากปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ได้แก่:

ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Respiratory Failure): ปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้เพียงพอ ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลงอย่างรุนแรง และอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

ภาวะเลือดเป็นพิษ (Sepsis/Septic Shock): การติดเชื้อในปอดลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย ความดันโลหิตตก อวัยวะล้มเหลวหลายระบบ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

น้ำในเยื่อหุ้มปอด (Pleural Effusion): มีการสะสมของของเหลวบริเวณช่องเยื่อหุ้มปอด ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ หายใจลำบาก

ฝีในปอด (Lung Abscess): เกิดโพรงหนองขึ้นในเนื้อปอด

การติดเชื้อซ้ำซ้อน: ปอดที่อ่อนแอจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น


การป้องกันและรักษา

การป้องกัน:

ฉีดวัคซีน: โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมค็อกคัส (สำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว)

ล้างมือให้สะอาด: เป็นวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ

หลีกเลี่ยงผู้ป่วย: หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ

ไม่สูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ทำลายปอดและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

รักษาสุขภาพให้แข็งแรง: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ

หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง: หลีกเลี่ยงควันพิษ ฝุ่นละออง หรือสารเคมี


การรักษา:

รีบไปพบแพทย์: หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นปอดอักเสบ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง

ยาปฏิชีวนะ: หากสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

ยาต้านไวรัส: หากสาเหตุมาจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสบางชนิด

ยาบรรเทาอาการ: เช่น ยาลดไข้ ยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม

การรักษาประคับประคอง: การให้ออกซิเจน การให้สารน้ำ การพักผ่อน

การรักษาเฉพาะทาง: ในกรณีรุนแรง อาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ

โรคปอดอักเสบ/ปอดบวมเป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด การรู้เท่าทันอาการ และการเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยลดความรุนแรงและผลกระทบของโรคได้อย่างมากครับ