แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 43
1
หมี่กรอบส้มซ่า ทำขายสร้างรายได้ อาหารไทยร่วมสมัยตำรับชาววัง รสชาติหอมอร่อย กลิ่นรสสดชื่นจากส้มซ่า

มรดกทางอาหารอันล้ำค่าของประเทศไทยเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศที่ผสมผสานทั้งเนื้อสัมผัส รสชาติและกลิ่นหอมเข้าด้วยกัน อาหารอันโดดเด่นที่มักดึงดูดความสนใจจากทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวก็คือหมี่กรอบส้มซ่า ซึ่งเป็นอาหารจานหายากและล้ำสมัยซึ่งมีรากฐานมาจากอาหารไทยแบบดั้งเดิม หมี่กรอบส้มซ่าเป็นอาหารไทยโบราณที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน

หมี่กรอบส้มซ่ามีส่วนประกอบและขั้นตอนการทำที่ซับซ้อน ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมเส้นหมี่ การทำน้ำปรุงรส ไปจนถึงการทอดหมี่

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์
หมี่กรอบมีต้นกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 5 และได้รับความนิยมอย่างมากในราชสำนัก การใส่ส้มซ่าซึ่งเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวคล้ายมะกรูดที่มีเปลือกหอม ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเมนูหมี่กรอบจานนี้ได้เป็นอย่างดี กลิ่นหอมของผลไม้ช่วยเสริมรสชาติหวาน เปรี้ยว และเผ็ดของเมนูนี้ ทำให้หมี่กรอบกลายเป็นสมบัติล้ำค่าด้านอาหาร

ส่วนผสมหลักและรสชาติ
ส่วนผสมที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนทำให้หมี่กรอบส้มซ่ามีลักษณะดังนี้:

เส้นข้าวเกรียบ:เส้นนี้มีสีเหลืองทองและกรุบกรอบ เป็นส่วนประกอบหลักของเมนูนี้
น้ำตาลปี๊บและซอสมะขาม:สร้างความสมดุลที่ลงตัวระหว่างกลิ่นหวานและเปรี้ยว
กุ้งและเต้าหู้:เพิ่มมิติความอร่อยและอุดมไปด้วยโปรตีน
เปลือกส้มซ่า:เพิ่มกลิ่นหอมส้มอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับจานอาหาร
สมุนไพรสดและพริก:เพิ่มรสชาติที่สดใสและมีกลิ่นเผ็ดเล็กน้อย

วิธีการทำ
การทำหมี่กรอบต้องพิถีพิถัน เริ่มจากนำเส้นก๋วยเตี๋ยวบางไปทอดจนเหลืองกรอบ จากนั้นเคี่ยวด้วยซอสที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าว มะขาม และน้ำปลาจนข้น จากนั้นผสมกับกุ้ง เต้าหู้ และเส้นก๋วยเตี๋ยวกรอบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมจากเปลือกส้มซ่าหั่นบางและสมุนไพรสด

เพราะเหตุใดจึงคุ้มค่าที่จะลอง
หมี่กรอบส้มซ่าเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการทำอาหารที่มอบประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่น่ารื่นรมย์ เส้นหมี่กรอบตัดกับซอสรสละมุนได้อย่างสวยงาม ขณะที่กลิ่นหอมของส้มซ่าก็เพิ่มความอร่อยล้ำ เป็นเมนูที่แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความคิดสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในอาหารไทย

หาหมี่กรอบส้มซ่าได้ที่ไหน
แม้ว่าเมนูนี้จะหายากในปัจจุบัน แต่ร้านอาหารไทยดั้งเดิมและร้านอาหารเฉพาะทางบางแห่งก็ยังคงมีหมี่กรอบส้มซ่าจำหน่ายอยู่ หรือผู้ที่สนใจทำอาหารไทยสามารถลองทำเมนูคลาสสิกนี้เองที่บ้านโดยใช้วัตถุดิบสดใหม่และความอดทนเล็กน้อย

อัญมณีที่ซ่อนเร้นของอาหารไทย
หมี่กรอบส้มซ่าไม่ได้เป็นแค่เพียงอาหารจานเดียว แต่เป็นการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สะท้อนถึงความชาญฉลาดและศิลปะของประเพณีการทำอาหารไทยโบราณ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่เข้มข้นและประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หาได้ยาก ความอร่อยกรอบหอมกรุ่นนี้เป็นเมนูที่ต้องลอง


2
Doctor At Home: หลอดเลือดแดงขาตีบ (Peripheral artery disease/PAD)

หลอดเลือดแดงขาตีบ (Peripheral artery disease/PAD)* ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis)

โรคนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มพบได้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี และยิ่งมีอายุมากขึ้นก็ยิ่งพบได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคนี้

นอกจากนั้นอาจพบในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน

มักพบร่วมกับโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะหลอดเลือดแดงตีบอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวายเรื้อรัง ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว) เป็นต้น

*Peripheral artery disease/Peripheral arterial disease/PAD ซึ่งแปลว่า หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบนั้น หมายถึง หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงแขนหรือขาเกิดการตีบแคบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงแขนหรือขาไม่ได้
ภาวะนี้มักเกิดที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงขา เรียกว่า "หลอดเลือดแดงขาตีบ"
ในบทนี้จึงขอกล่าวถึงเฉพาะเรื่อง "หลอดเลือดแดงขาตีบ"


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็งจากการมีตะกรันไขมันเกาะที่ภายในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบลง เลือดไปเลี้ยงขาและปลายเท้าได้น้อยลง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงขาแข็งและตีบที่สำคัญ ได้แก่ เบาหวาน การสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ได้แก่ อายุ (มากกว่า 50 ปี) ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ ภาวะอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กก./ตร.ม.) ภาวะโฮโมซีสตีนในเลือดสูง (hyperhomocysteinemia) โรคไตเรื้อรัง มีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (อัมพฤกษ์ อัมพาต)

โรคนี้ส่วนน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การฉายรังสี การบาดเจ็บที่ขา การอักเสบของหลอดเลือดแดงขา (ซึ่งอาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของ โรคหลอดเลือดแดงขมับอักเสบ) เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นที่ขา เช่น กลุ่มอาการหลอดเลือดแดงขาพับถูกกดทับ (popliteal entrapment syndrome) ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นกดทับถูกหลอดเลือดแดงที่บริเวณขาพับ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ค่อนข้างน้อย และพบได้ในคนอายุน้อยหรือวัยหนุ่มสาว


อาการ

ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงขาตีบในระยะแรกอาจไม่มีอาการ ซึ่งตรวจพบได้จากการตรวจเช็กสุขภาพจากแพทย์

ผู้ป่วยจะแสดงอาการเมื่อมีการตีบของหลอดเลือด เกินร้อยละ 50

อาการเริ่มแรกที่พบบ่อย คือ ขาข้างที่ผิดปกติมีอาการปวดเวลาเดินไปได้สักพักหนึ่ง หรือเวลาเดินขึ้นบันได มักมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่น่อง บางคนอาจปวดที่ต้นขาหรือสะโพกร่วมด้วย (ซึ่งขึ้นกับตำแหน่งที่ตีบตันของหลอดเลือด) อาการอาจเกิดที่ขาเพียงข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างก็ได้

อาการปวดจะทุเลาได้เองเมื่อผู้ป่วยหยุดพักการเดินสัก 2-3 นาที แต่เมื่อเดินต่อสักพักก็จะกำเริบอีก หากยังฝืนเดินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะปวดมากขึ้น จนอาจเดินขาลาก ทำให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องหยุดเดิน

ทั้งนี้เนื่องจากการเดิน กล้ามเนื้อขาต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากขณะพัก (ไม่ได้เดิน) แต่เพราะหลอดเลือดแดงขาตีบ เลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อขาได้พอกับความต้องการ เราเรียกอาการปวดขาในลักษณะนี้ว่า "อาการปวดขาเป็นระยะเพราะขาดเลือด (intermittent claudication)"

บางคนอาจไม่มีอาการปวดขาเป็นระยะดังกล่าว แต่อาจมีเพียงอาการหนักขา ขาไม่มีแรงหรือขาอ่อน ทำให้คิดว่าเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการเดิน หรือจากอายุที่มากขึ้น

บางรายอาจมีอาการเป็นตะคริวที่น่องบ่อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นแม้แต่ในช่วงเข้านอนตอนกลางคืน

เมื่อหลอดเลือดแดงขาตีบมากขึ้น ก็จะมีอาการปวดขามากขึ้น เดินได้ระยะสั้นกว่าเดิมก็จะมีอาการปวด ทำให้ผู้ป่วยเดินได้ช้าลง หรือเดินไกลไม่ได้ มีผลทำให้ดำเนินชีวิตได้ไม่ปกติ หรือเล่นกีฬาที่ต้องเดินไม่ได้

หากปล่อยไว้จนมีการตีบของหลอดเลือดที่รุนแรง ก็จะมีอาการปวดขา แม้อยู่เฉย ๆ หรือเวลานอนราบหรือยกเท้าสูง อาจเป็นมากถึงขั้นนอนไม่หลับ

นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ตามมา ได้แก่ ขาข้างที่เป็นมีอาการชาหรืออ่อนแรง ซีดกว่าปกติ หรือมีสีผิวเปลี่ยนไป คลำดูขาข้างที่เป็นรู้สึกเย็นกว่าปกติ ผิวหนังที่บริเวณขาดูมันวาวกว่าปกติ ขนและเล็บงอกช้ากว่าขาข้างที่ปกติ เกิดแผลที่ปลายเท้าเรื้อรังและหายยาก กล้ามเนื้อขาลีบลงกว่าปกติ ชีพจรที่ขาและเท้าของขาข้างที่เป็นคลำได้เบาหรือไม่ได้

ผู้ชายบางคนอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว) ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ การเป็นแผลเรื้อรังที่ขา อาจเกิดการติดเชื้อ และกลายเป็นเนื้อตายเน่า (gangrene) ซึ่งอาจจำเป็นต้องตัดนิ้วเท้าหรือข้อเท้า เกิดความพิการได้ มักพบในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รักษาอย่างจริงจัง

ผู้ป่วยมักมีภาวะหลอดเลือดแดงตีบที่อวัยวะอื่นร่วมด้วย หากปล่อยไว้ก็อาจเกิดโรคอื่น ๆ ตามมา ที่สำคัญ ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (พบได้ประมาณร้อยละ 30-50 ของผู้ที่เป็นหลอดเลือดแดงขาตีบ) โรคหลอดเลือดสมอง (พบได้ประมาณร้อยละ 15-25 ของผู้ที่เป็นหลอดเลือดแดงขาตีบ) หลอดเลือดแดงไตตีบ (renal artery stenosis) ไตวายเรื้อรัง

ในรายที่มีการตีบของหลอดเลือดแดงขาที่รุนแรง อาจเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงขาแทรกซ้อนอย่างเฉียบพลัน ทำให้ขาเกิดภาวะขาดเลือดอย่างรุนแรง เกิดภาวะที่เรียกว่า "Acute limb ischemia (ALI)" ขาข้างที่เป็นจะมีอาการปวด (ขณะพักอยู่เฉย ๆ) ซีด เย็น ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และชีพจรเบา ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล และมีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการจากการตัดขา หรือการเสียชีวิต


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการและสิ่งตรวจพบ ได้แก่ การคลำชีพจรที่เท้าพบว่าเบาหรือคลำไม่ได้ เท้าซีดและเย็นกว่าปกติ กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อขาลีบลงกว่าปกติ แผลเรื้อรังที่เท้า

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดด้วยการตรวจพิเศษ เช่น ทำการทดสอบด้วยการวัดความดันโลหิตที่เท้าเทียบกับที่ต้นแขน ดังที่เรียกว่า "Ankle-Brachial Index (ABI) Test" ซึ่งมักพบว่าความดันโลหิตที่เท้ามีค่าต่ำกว่าที่ต้นแขน (ค่า ABI < 0.90) มีค่ายิ่งต่ำ แสดงว่าโรคยิ่งรุนแรง, การตรวจวัดการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดแดงขาด้วยอัลตราซาวนด์ (Doppler ultrasound), การถ่ายภาพหลอดเลือด (angiography) ด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, การตรวจเลือด (ดูระดับน้ำตาล ไขมัน) เป็นต้น

ในรายที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้ยารักษาโรคที่เป็นสาเหตุ (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง), ให้ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน, โคลพิโดเกรล (clopidogrel) ป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มอุดตันหลอดเลือด, ให้ยาเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงขา (เช่น cilostazol ลดอาการปวดขาเป็นระยะเพราะขาดเลือด ช่วยให้เดินได้ระยะไกลขึ้น) เป็นต้น

นอกจากนี้แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่, ลดอาหารหวาน มัน เค็ม, ลดน้ำหนัก, ผ่อนคลายความเครียด, ออกกำลังกาย

แพทย์อาจแนะนำให้ออกกำลังด้วยการเดินวันละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน เดินด้วยความเร็วตามปกติ เมื่อสังเกตว่าเริ่มมีอาการปวดขาให้หยุดเดิน เมื่อรู้สึกทุเลาปวดให้เดินต่อ เดิน ๆ หยุด ๆ สลับกันจนครบ 30-45 นาที การเดินช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงขาได้มากขึ้น ทำให้เดินได้ไกลขึ้น

หากการรักษาข้างต้นไม่ได้ผล แพทย์อาจทำการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การผ่าตัดบายพาส (โดยใช้หลอดดำของผู้ป่วยเอง หรือหลอดเลือดเทียม), การทำบัลลูนและใส่หลอดเลือดตาข่าย (stent) ค้ำยันภายในหลอดเลือด, การฉีดยาละลายลิ่มเลือดเข้าไปในหลอดเลือดตรงจุดที่มีลิ่มเลือดอุดตัน

ผลการรักษา หากได้รับการวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ก่อนมีอาการแสดง และไม่มีโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง มักได้ผลดี

แต่ถ้าได้รับการรักษาในระยะที่มีอาการ ผลการรักษาขึ้นกับสภาพของผู้ป่วย ในรายที่มีหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบร่วมด้วย ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการหรือการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดขาเวลาเดินหรือขึ้นบันได เป็นตะคริวที่น่องบ่อย ปวดขาตอนนอนราบหรือตอนกลางคืน ขามีลักษณะซีด เย็น กล้ามเนื้อขาลีบหรืออ่อนแรง หรือคลำชีพจรที่เท้ามีลักษณะเบาหรือคลำไม่ได้ มีแผลเรื้อรังที่ขา เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

นอกจากนี้ เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบในระยะแรกมักจะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ดังนั้น ผู้ที่สบายดี ไม่มีอาการปวดขาและอาการอื่นใด ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจกรองโรคนี้ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีอายุมากกว่า 65 ปี
    มีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งป่วยเป็นเบาหวาน หรือสูบบุหรี่
    มีอายุน้อยกว่า 50  ปี ซึ่งป่วยเป็นเบาหวาน และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อ้วน เป็นต้น

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ข้อปฏิบัติตัว ที่สำคัญ ได้แก่ 

    งดบุหรี่
    ลดอาหารหวาน มัน เค็ม กินผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เต้าหู้ ปลาให้มาก ๆ
    ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักเกิน
    ผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกาย ด้วยการเดินให้มาก ๆ ตามวิธีที่แพทย์แนะนำ วันละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การรักษา" ด้านบน)
    หมั่นดูแลเท้าไม่ไห้เกิดแผล (เช่น ระมัดระวังในการตัดเล็บ สวมใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า ระวังไม่ให้ถูกของมีคมบาด) เพราะหายยากเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง
    หลีกเลียงการซื้อยามาใช้เอง เนื่องเพราะยาบางชนิด เช่น กลุ่มสูโดเอฟีดรีน (pseudoephedrine) ซึ่งนิยมใช้รักษาโรคหวัด คัดจมูก โรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ อาจทำให้หลอดเลือดตีบมากขึ้น ปวดขามากขึ้นได้


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดขามากขึ้น
    ขามีลักษณะซีด เย็น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชา หรือเป็นแผลเรื้อรัง
    มีอาการเจ็บหน้าอก ใจสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือแขนขาซีกหนึ่งมีอาการชาหรืออ่อนแรง
    ขาดยาหรือยาหาย
    สงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์ให้กิน เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ใจสั่น ท้องเดิน เป็นต้น
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

    ไม่สูบบุหรี่
    รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    ลดอาหารมัน หวาน เค็ม กินผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เต้าหู้ ปลาให้มาก ๆ
    ถ้าเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ควรดูแลรักษาให้สามารถควบคุมโรคได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ

1. ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบจะรู้สึกสบายดี ไม่มีอาการปวดขาและอาการผิดปกติอื่นใด จะมีอาการปวดขาเมื่อหลอดเลือดตีบมากแล้ว และอาจมีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบแฝงอยู่ร่วมด้วย (โดยไม่มีอาการ) ดังนั้นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและตีบ ถึงแม้สบายดีก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจกรองโรค และรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ

2. โรคนี้มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "สาเหตุ" ด้านบน) ที่สำคัญ ได้แก่ การเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ การสูบบุหรี่ การมีอายุมาก ยิ่งมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และป่วยเป็นโรคเบาหวาน ร่วมกับการสูบบุหรี่ หรือความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากขึ้น ดังนั้น ควรป้องกันการเกิดโรคนี้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงให้มากที่สุด (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การป้องกัน" ด้านบน)

3. โรคนี้มีความรุนแรงค่อนข้างมาก เนื่องเพราะมักตรวจพบเมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดขาแล้ว และขามักมีภาวะขาดเลือดเรื้อรังมานาน มักทำให้เกิดแผลเรื้อรัง ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน ถึงขั้นต้องตัดขา นอกจากนี้ อาจพบโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของความพิการหรือการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้

4. ผู้ที่มีอาการปวดขาหรือเป็นตะคริวบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง อย่าชะล่าใจว่าเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือไม่เป็นอะไรมาก แต่ควรไปปรึกษาแพทย์เพี่อตรวจให้แน่ใจว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบหรือไม่

3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


4
รถขนของไปต่างจังหวัด รถรับจ้างขนของจังหวัดสงขลา รถรับจ้างทั่วไป สะดวกบริการดี ราคาไม่แพง

รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ราคาที่ถูกและคุณภาพ ผุ้นำด้านงานบริการ รถรับจ้าง ขนย้ายของทั่วไป ย้ายบ้าน ย้ายหอ รับจ้างขนของ รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล่้อรับจ้าง และ รถขนของจังหวัดสงขลา เราขอเรียนแจ้งว่าในช่วงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือได้ว่า ภาคใต้ประสบกับปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม อย่างหนักหลายจังหวัดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดระนอง กระบี่ ชุมพร ตรัง ยะลา ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี นราธิวาส และ จังหวัดสงขลา ชื่อจังหวัดที่ได้กล่าวมานี้ ได้มีพื้นที่

เกือบทั้งจังหวัดน้ำท่วมหนักและสูงมาก ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขนย้าย การคมนาคมขนส่ง เป็นไปอย่างทุลักทุเล และบางเส้นทางถูกตัดขาดไม่สามารถที่จะเดินทางได้ จนถึงทุกวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย น้ำลดลงอย่างมากซึ่งเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูพื้นที่ในจังหวัดต่างๆของภาคใต้ ทั้งทางหน่วยงานการทหาร การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ช่วยกันทั้งกำลัง และทรัพยากรปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือ ในพื้นที่จังหวัดดังกล่าวเพื่อต้องการให้กลับมาสู่ในสภาวะปกติอย่างเร็วที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้านเรือน สถานที่ราชการสถานที่อำนวยสาธารณประโยชน์ สาธารณูปโภค รวมไปจนถึงถนนเส้นทางการเดินรถ การคมนาคมขนส่ง ให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีลูกค้าที่โทรเข้ามาสอบถาม งานบริการ รถรับจ้างขนของ ของเราในจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ที่โดนปัญหาเรื่องน้ำท่วม ทางเราต้องขออภัยที่บางเส้นทางไม่สามารถที่จะเข้าไปให้บริการกับท่านได้เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง แต่ขณะนี้หลังจากน้ำลด ในหลายหลายเส้นทางเกือบจะร้อย

เปอร์เซ็นต์เราได้ให้ บริการรถรับจ้างขนของ ในจังหวัดต่างๆ ขึ้นมาตั้งแต่จังหวัดสงขลาทั้ง รถกระบะรับจ้างจังหวัดสงขลา รถ 6 ล้อรับจ้างจังหวัดสงขลา ให้บริการทั้งแบบคอกสูงและแบบตู้ทึบ  รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดสงขลา รถเทรลเลอร์รับจ้างจังหวัดสงขลา และ รถรับจ้างขนของทั่วไป จังหวัดสงขลา เราพร้อมให้บริการรับจ้างขนของทั่วทุกพื้นที่แล้ว ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้งานรับจ้าง ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ มีปริมาณมาก เนื่องจากสินค้าของลูกค้าบางรายโดนน้ำท่วม บางคนต้องการที่จะ

ย้ายของออกจากพื้นที่ไปยังบ้านใหม่ บางท่านต้องการขนส่งวัตถุดิบทางการเกษตร ขึ้นมาส่งยางภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ในช่วงนี้เราจะคิดค่าบริการ  รถรับจ้าง ที่ราคาถูกเป็นพิเศษ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และไม่ให้เป็นการซ้ำเติม กับลูกค้า หากลูกค้าท่านใดต้องการที่จะขนย้ายของขนย้ายบ้าน สามารถติดต่อเข้ามาที่เราได้ตลอด 24 ชั่วโมงกับ ทีมงานขนส่ง

จุดบริการ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ตอนนี้รอให้บริการรับจ้างในทุกๆเขตอำเภอ โดยรถบริการรับจ้างทุกชนิดทุกรูปแบบขนย้ายทุกอย่าง โดย รถกระบะรับจ้างสงขลา รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง พร้อมด้วยพนักงานยกสินค้า

จุดจอดบริการ ณ ตอนนี้ มีได้แก่

    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ เมืองสงขลา
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ กระแสสินธุ์
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ ควนเนียง
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ จะนะ
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ เทพา
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ นาทวี
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ นาหม่อม
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ บางกล่ำ
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ ระโนด
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ รัตภูมิ
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สทิงพระ
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สะเดา
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สะบ้าย้อย
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ สิงหนคร
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ หาดใหญ่
    รถรับจ้างทั่วไป รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้างเขตอำเภอ คลองหอยโข่ง

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ของเรา เรารู้สึกยินดีและซาบซึ้งใจมาก ที่ท่านให้โอกาสเรา พนักงานขนส่งทุกคน ขอสัญญาว่า และดูแลสินค้าของท่านให้ดีที่สุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และ จะ รับใช้ลูกค้าทุกท่านให้ดีที่สุด และเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ อย่าลืมนะครับ หากต้องการ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของสินค้าทุกชนิด โทรมาหาเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้างรถรับจ้างทั่วไปในจังหวัดสงขลา พร้อมให้บริการทำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงขอบคุณค่ะ

5
บ้าน สำคัญยังไง By รถรับจ้างขนของอ่างทอง รถรับจ้างขนย้ายบ้าน

สถานที่ที่เราเรียกว่า "บ้าน" นั้นเกิดขึ้นไม่ใช่แค่เพื่อเป็นที่พักอาศัย แต่ยังเกิดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของความรักและความเข้าใจในครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความสง่างาม และความเป็นอารยธรรมในวัฒนธรรมของเราด้วย

ด้วยความคิดเห็นนี้ บริการรถรับจ้างขนของอ่างทอง จึงมีความยินดีที่จะนำเสนอเรื่อง "บ้าน : สำคัญยังไง" เพื่อเสนอภาพรวมของความสำคัญและบทบาทที่บ้านมีต่อชีวิตของเราและสังคมในปัจจุบันสุดยอดรถกระบะรับจ้างขนของ

บ้านเป็นสถานที่สำคัญที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่ความสำคัญของบ้านไม่จำกัดเฉพาะการใช้เป็นที่พักอาศัยเท่านั้น ด้วยความหลากหลายในบทบาทและการใช้งาน บ้านเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สร้างและรวมรวมความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันธ์อันแข็งแรงระหว่างสมาชิกในครอบครัวเข้าด้วยกัน

   
ความสำคัญของบ้านสามารถอธิบายได้ดังนี้

    ที่อยู่ : บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่เรากลับมาหลังจากการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น มันยังเป็นที่อยู่อาศัยที่มอบความสบายและความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับเราและสมาชิกในครอบครัวของเราอีกด้วย บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่เราหลบภัยจากอุตสาหกรรมและความวุ่นวายของโลกภายนอก แต่ยังเป็นที่ที่เราสร้างสรรค์ความสุขและความอุ่นเครื่องใจในภายใน
    ศูนย์กลางของความสัมพันธ์ : บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันความสุข ความทรงจำ และความเชื่อมั่นเท่านั้น มันยังเป็นสถานที่ที่เราสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตที่น่าจดจำกับผู้ที่เรารักและเชื่อถือได้ในชุมชนของเรา บ้านเป็นที่สร้างสรรค์ความรักและความเข้าใจที่เป็นตัวบ่งชี้ของความสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างเราและคนที่เราเกี่ยวข้อง
    สัญลักษณ์ของความเชื่อมโยง : บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ เราสามารถเห็นความหลากหลายของชีวิตและประสบการณ์ของครอบครัวที่แตกต่างกัน บ้านยังเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงที่ไม่สามารถแยกจากความรักและความผูกพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว มันเป็นสถานที่ที่เราและคนรักของเราสร้างความรู้สึกอยู่ร่วมกัน และสร้างประสบการณ์ที่มีค่ามากมายในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่น
    ส่วนหนึ่งของเส้นทางชีวิต : บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เรากลับมาหลังจากการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำในชีวิตประจำวันเท่านั้น มันยังเป็นสถานที่ที่เราเริ่มต้นและสิ้นสุดทุกวัน บ้านเป็นจุดเริ่มต้นของเราในการเรียนรู้และการเติบโต และก็เป็นจุดสิ้นสุดที่เรากลับมาหาความสงบสุขและความพึงพอใจในทุกๆ วัน มันไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่เราหลับตาตลอดคืน แต่ยังเป็นพื้นที่สำคัญที่เราสร้างความเข้าใจและความรู้สึกของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ที่เราเรียนรู้การรักษาความสัมพันธ์และความรักในชีวิตประจำวันของเราอย่างเป็นธรรมชาติ
    การส่งเสริมคุณภาพชีวิต : บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ แต่มันยังเป็นสถานที่ที่เราสร้างความสุขและความพึงพอใจในชีวิต การมีบ้านที่สะอาดและเรียบร้อยช่วยเพิ่มความสุขในการทำกิจวัตรประจำวันของเรา มันให้เราสถานที่ที่เราสามารถหลบภัยจากวุฒิภาคของโลกภายนอกและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนและการพักอาศัย

นอกจากนี้ขนส่ง บ้านยังเป็นสถานที่สำคัญที่เราสร้างความสงบสุขและความสุขในใจ เป็นที่สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชน การมีพื้นที่ส่วนตัวในบ้านช่วยให้เรามีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและทำให้เรารู้สึกเชื่อมั่นและสบายใจกับคนรอบข้าง

ด้วยทุกสิ่งที่บ้านมีให้ เช่น ความสงบสุข ความสุข และความพึงพอใจ มันส่งเสริมสุขภาพจิตและความสงบสุขในชีวิตของเรา การมีบ้านที่น่าอยู่ช่วยเราให้มีความเป็นอยู่ที่สมดุลและเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันของเราอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งส่งผลให้เรามีความสุขที่ยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางจิตและกายรถหกล้อรับจ้าง ใกล้ฉัน

   
คิดจะย้ายบ้าน คิดถึง บริการรถรับจ้างขนของอ่างทอง

จะย้ายบ้านเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายและตื่นเต้นในชีวิตของผู้คน มันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวใหม่ในชีวิตประจำวัน ในกระบวนการย้ายบ้าน มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น สถานที่ใหม่ เงินทุน และการจัดการของทรัพย์สิน เป็นต้น

ในขณะที่การย้ายบ้านอาจเป็นภาระที่มีความยุ่งยาก เราต้องการให้ประสบการณ์นี้เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายที่สุด ซึ่งการใช้ บริการรถรับจ้างขนของอ่างทอง อาจเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อช่วยให้การย้ายบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา

บริการรถรับจ้างขนของอ่างทองมักจะมีความสะดวกสบายและมืออาชีพที่สามารถช่วยในการย้ายของได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการจัดการและขนส่งของให้ถึงที่หมายโดยมีความระมัดระวัง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านใหม่ของคุณได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย นอกจากนี้ บริการรถรับจ้างขนของอ่างทองยังมีความชำนาญในการดูแลและปกป้องทรัพย์สินของคุณในระหว่างการขนส่ง ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของพวกเขา คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของคุณจะถูกดูแลอย่างดีและถูกจัดส่งอย่างปลอดภัยถึงที่ปลายทาง

หากคุณกำลังคิดจะย้ายบ้าน การใช้ บริการรถรับจ้างขนของอ่างทอง อาจเป็นคำตอบที่ดีเพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ใหม่ได้อย่างง่ายดายและไม่มีความเครียด ดังนั้น การใช้บริการรถรับจ้างขนของอ่างทองเมื่อคิดจะย้ายบ้าน จะช่วยให้การย้ายบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายและไม่เสียเวลามากนัก และทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของคุณจะถูกขนส่งไปยังบ้านใหม่ของคุณอย่างปลอดภัยและสบายใจ

6
การจัดฟันเด็ก ต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่

เด็กๆหลายคน มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน บางคนมีฟันที่มีความผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก ซึ่งถ้าหากบุตรหลานของท่านมีฟันซ้อนเก ในระดับปานกลาง หรือมาก ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาให้เด็กเข้ารับการถอนฟันเสียก่อน เพื่อให้ฟันได้เรียงตัวอย่างสวยงามและไม่มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในเรื่องของบดเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ก็จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการถอนฟันนั้น ก็มีข้อดีสำหรับผู้ที่มีปัญหา เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเรียงฟันให้เรียบและสวยงาม นอกจากนี้ เมื่อฟันเราเรียงเรียบสวยงามแล้ว ยังทำให้เราทำความสะอาดฟันง่ายขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การถอนฟันยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่ยื่นล้ำหน้าให้เข้ามาด้านใน ทำให้ฟันที่ยื่นดูยุบลง ส่งผลให้รูปใบหน้าเปลี่ยนแปลง สวยขึ้นด้วย และสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่อยากจะมีฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ก็ต้องปรึกษาทันตแพทย์เสียก่อน โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรให้ความสำคัญในข้อนี้ด้วย เพราะถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาฟันตามที่กล่าวมา ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อหาทางแก้ไข ซึ่งเด็กๆหลายคนอาจจะมีความกังวลว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว จะต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ ซึ่งหลายคนอาจจะกลัวการถอนฟัน เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด ได้ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่าต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองได้พูดทำความเข้าใจกับเด็กถึงในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กหลายคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการถอนฟัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ปัญหาฟันของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษา พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อที่จะได้วางแผนในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สำหรับในเรื่องของการเข้ารับการถอนฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันนั้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจประเมินช่องปากและฟันในเบื้องต้น ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของฟันซ้อนเก ก็อาจจะพิจารณาให้เข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือบางคนอาจจะยิ้มแล้วฟันดูเต็มช่องปาก ซึ่งการเข้ารับการถอนฟันก็จะช่วยให้ยิ้มได้สวยขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งเด็กที่มีปัญหาฟันฝัง เช่น ฟันเขี้ยว ซึ่งฟันฝังบางกรณีก็ยากที่จะดึงลงมาสู่ช่องปากได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีฟันฝังลึกๆ ฟันฝังที่รากโค้งงอ หรือฟันฝังที่รากยึดติดกับกระดูก

กรณีนี้ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้ถอนฟันออก แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการถอนฟันทุกคน เพราะเด็กบางคนอาจจะมีปัญหาฟันซ้อนเกเพียงเล็กน้อย ซึ่งทันตแพทย์สามารถแก้ไข ดึงฟันให้กลับมาเรียงตัวอย่างสวยงามได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการถอนฟัน หรือถ้าหากเด็กบางคนมีใบหน้าค่อนข้างยุบ การเข้ารับการจัดฟันโดยไม่เข้ารับการถอนฟันก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดก็ได้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา หรืออาจจะศึกษาข้อมูลรายละเอียด รวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีความพร้อมและให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้อย่างเต็มที่และไม่มีความกังวล

อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกของเรา ก็มีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้ารับการรักษา  ทางเราอยากให้เด็กทุกคนมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในอนาคต

7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

 
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
ควรเลือกผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน

การเลือกผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผ้ากันไฟมีประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากไฟและสะเก็ดไฟได้อย่างเหมาะสม โดยมีปัจจัยที่ควรพิจารณาดังนี้:

1. ลักษณะการใช้งาน
งานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ:
ควรเลือกผ้ากันสะเก็ดไฟที่มีความหนาและทนทานต่อสะเก็ดไฟและความร้อนสูง
หากต้องเจอกับสะเก็ดไฟจากงานตัดเหล็กขนาดใหญ่ ควรเลือกผ้าซิลิกา

ดับไฟขนาดเล็ก:
เลือกผ้าห่มดับไฟที่คลุมหรือห่อหุ้มวัตถุที่กำลังลุกไหม้ได้มิดชิด
ควรเลือกผ้าห่มดับไฟที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการป้องกัน

กั้นแบ่งพื้นที่:
เลือกม่านกันไฟที่กั้นการลามของไฟได้ดี และมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่
ควรเลือกม่านกันไฟที่มีความทนทานต่อเปลวไฟและควัน

หุ้มฉนวน:
เลือกฉนวนกันความร้อนที่หุ้มท่อหรืออุปกรณ์ได้แน่นหนา
ควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสารเคมี

2. อุณหภูมิ
เลือกผ้ากันไฟที่ทนอุณหภูมิได้ตามที่ต้องการ
หากต้องเจอกับความร้อนสูงมาก ควรเลือกผ้าซิลิกา
หากอุณหภูมิทั่วไป เลือกใช้ผ้าใยแก้วก็เพียงพอ

3. งบประมาณ
ผ้ากันไฟมีหลายราคา ควรเลือกผ้าที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับงบประมาณ

4. ความทนทาน
หากต้องการความทนทานต่อการฉีกขาด ควรเลือกผ้าเคฟลาร์

5. คุณสมบัติเพิ่มเติม
หากต้องการกันน้ำหรือสารเคมี ควรเลือกผ้าที่เคลือบสารพิเศษ

ประเภทของผ้ากันไฟและการเลือกใช้

ผ้ากันสะเก็ดไฟ:
ใช้ในงานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ
ควรเลือกผ้าที่มีความหนาและทนทานต่อสะเก็ดไฟ
ถ้าต้องเจอกับสะเก็ดไฟจากงานตัดเหล็กขนาดใหญ่ ควรเลือกผ้าซิลิก้า

ผ้าห่มดับไฟ:
ใช้ดับไฟขนาดเล็กในครัวเรือน หรือในรถยนต์
ควรเลือกผ้าที่คลุมหรือห่อหุ้มวัตถุที่กำลังลุกไหม้ได้มิดชิด

ม่านกันไฟ:
ใช้กั้นแบ่งพื้นที่ในโรงงาน หรือในอาคาร
ควรเลือกม่านที่กันไฟลามได้ดี และมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่

ฉนวนกันความร้อน:
ใช้หุ้มท่อหรืออุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม
ควรเลือกฉนวนที่ทนความร้อนได้ดี และมีขนาดเหมาะสมกับท่อหรืออุปกรณ์

ตัวอย่างการเลือกผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับงาน
งานเชื่อมทั่วไป: เลือกผ้าใยแก้วสีทองหนา 0.9 มม. น้ำหนัก 890 กรัม/ตร.ม.
งานตัดเหล็กขนาดใหญ่: เลือกผ้าซิลิก้า
ดับไฟขนาดเล็กในครัวเรือน: เลือกผ้าห่มดับไฟขนาด 1 เมตร x 1 เมตร หรือ 1.2 เมตร x 1.8 เมตร
กั้นแบ่งพื้นที่ในโรงงาน: เลือกม่านกันไฟที่มีขนาดเหมาะสมกับช่องเปิด
หุ้มท่อที่มีความร้อนสูง: เลือกฉนวนกันความร้อนที่ทำจากผ้าซิลิกา

การเลือกผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน จะช่วยให้คุณปลอดภัยจากอันตรายจากไฟและสะเก็ดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

10
บริการทำความสะอาด: 8 ของใช้ในบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ

นอกจากจะทำความสะอาดตามพื้น ผนัง โต๊ะ ตู้ และเตียงแล้ว คุณทำความสะอาดอะไรที่เป็นของใช้ในบ้านอีกบ้างเอ่ย เนื่องจากภายในบ้านมีข้าวของ เครื่องใช้มากมาย ก็อาจจะมีบางชิ้นที่ลืมไปบ้างว่าต้องทำความสะอาด ในบทความนี้รวบ 8 ของใช้ในบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ แต่อาจลืมทำมาฝาก หากทราบกันแล้วว่ามีอะไรบ้าง ลองนึกกันดูว่า คุณทำความสะอาดของใช้พวกนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? เพราะของพวกนี้ ใช้ไปนาน ๆ จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค รู้แบบนี้แล้ว รีบพุ่งตัวไปทำความสะอาดกันเลยจ้า

ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุกวัน

          ฟองน้ำ ถือเป็นสิ่งที่สกปรกที่สุดสำหรับห้องครัวเลย เพราะเมื่อใช้ล้างภาชนะต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว มันจะถูกวางไว้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ทำให้เชื้อโรคมากมายสะสมอยู่ ทั้งแบคทีเรีย ยีสต์ และรา ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้พากันมาอาศัยอยู่ในฟองน้ำถึง 70% เลย เป็นเหตุทำให้ภาชนะที่ล้างไม่สะอาดพอ เกิดการท้องร่วง อาหารเป็นพิษได้ การฆ่าเชื้อโรคเหล่านี้ในฟองน้ำไม่ยากเลยค่ะ ชุบฟองน้ำด้วยน้ำสะอาด นำไปอบในไมโครเวฟ 2 นาที ด้วยความร้อนสูงสุด (คอยเฝ้าดูไม่ให้ฟองน้ำแห้ง เพราะอาจไหม้ได้) เพียงเท่านี้ก็ฆ่าเชื้อโรคในฟองน้ำได้แล้ว นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนฟองน้ำล้างจานใหม่อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์

ซักผ้าขนหนูทุก 3 วัน

          ผ้าขนหนู เป็นสิ่งที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ซึ่งบางคนก็อาจลืมไปว่าถึงเวลาต้องซักมันแล้ว มารู้ตัวอีกที เอ๊ะ...ทำไมสิวขึ้นหลัง ผดขึ้นตัว สาเหตุอาจมาจากเราใช้ผ้าขนหนูที่ไม่สะอาดอยู่ก็เป็นได้ เพราะการที่เราใช้ผ้าขนหนูแต่ละครั้ง เซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรียจากร่างกายเราจะติดผ้าขนหนูไป อีกทั้งเชื้อราที่เกิดจากความอับชื้นของผ้า และสะสมอยู่นานวันเข้า สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็จะมาเกาะที่ผิวเรา เสี่ยงต่อโรคผิวหนังได้ ฉะนั้น เราควรใช้ผ้าขนหนูไม่เกิน 6 ครั้ง ถ้าอาบน้ำเช้า-เย็น ก็คือ ไม่เกิน 3 วัน หรือถ้าผ้าขนหนูมีกลิ่นอับแล้ว ก็ควรนำไปซักทันที และหลังใช้ผ้าขนหนูเสร็จ ควรนำไปผึ่งไว้ในที่อากาศถ่ายเทหรือผึ่งในที่ที่โดนแดด เพื่อให้ผ้าขนหนูแห้ง ไม่อับชื้น จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

ซักพรมเช็ดเท้าทุก 1 สัปดาห์

          พรมเช็ดเท้าทั้งที่สำหรับใช้ก่อนเข้าบ้าน ใช้ในห้องน้ำ หรือใช้ที่ไหน ๆ ในบ้านก็ตามแต่ เพราะคนในบ้านต่างก็มาเช็ดแบบนี้ทุกวัน วันละหลายรอบ พอนานวันเข้าพรมเช็ดเท้าก็กลายเป็นแหล่งรวมความสกปรกและเชื้อโรคได้ แทนที่จะเป็นพรมเช็ดเท้าที่เช็ดให้เท้าแห้งหรือสะอาด แต่กลายเป็นว่าเชื้อโรคดันเกาะเท้าเรา แล้วเราเดินให้เชื้อโรคแพร่ไปทั่วบ้านอีก ฉะนั้น อย่าลืมนำพรมเช็ดเท้าไปซักทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 1 สัปดาห์ล่ะ

ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนทุก 1 สัปดาห์

          เมื่อเรานอนเซลล์ผิวที่ผลัดจากตัวเรา รังแค เศษผม หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะสะสมอยู่บนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน ซึ่งเป็นด่านแรก ที่ปกคลุมเครื่องนอนต่าง ๆ ของเราอยู่ จึงควรถอดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนออกมาซักทุก 1 สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 - 70 องศาเซลเซียส เพื่อกำจัดไรฝุ่น

ทำความสะอาดม่านอาบน้ำทุก 3 สัปดาห์

          ม่านอาบน้ำต้องกั้นระหว่างโซนเปียก-โซนแห้ง และอยู่ในที่ที่มีความชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ม่านเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย หากเห็นว่าม่านอาบน้ำเริ่มมีจุดดำที่เกิดจากเชื้อรา ควรรีบนำไปทำความสะอาด หรือทำความสะอาดทุก 3 สัปดาห์ก็ได้ หากเป็นม่านอาบน้ำพลาสติก ให้ใช้เบคกิ้งโซดาขัดถูตรงคราบเชื้อราออกก่อน จากนั้นนำไปปั่นในเครื่องซักผ้ากับผ้าขนหนูผืนเก่าที่ไม่ใช้แล้ว และใส่น้ำส้มสายชูแทนผงซักฟอก เมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จ ให้รีบนำไปตากแดดให้แห้ง

ซักผ้าห่ม ผ้านวมทุก 1 เดือน

          พวกเราต้องสัมผัสกับผ้านวมและเครื่องนอนกันถึง 1 ใน 3 ต่อวันเลย เราจึงไม่ควรลืมใส่ใจเรื่องความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป จะทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเชื้อโรค ทั้งไรฝุ่น ที่มาจากคราบเหงื่อไคล เซลล์ผิวจากตัวเรา ดังนั้น ควรนำผ้าห่ม ผ้านวมไปซักทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง

ตากแดดหมอนหนุน หมอนข้างทุก 1 เดือน

          ควรนำหมอนออกไปตากแดดทุก 1 เดือน เพราะแสงแดดช่วยฆ่าพวกเชื้อโรค เชื้อราได้อยู่แล้ว และยังช่วยฆ่าพวกไรฝุ่นและทำให้ไข่ของไรฝุ่นฝ่อได้อีกด้วย ระยะเวลาในการตากแดด 2 ชั่วโมง ทำให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อได้ถึง 50% และถ้าตากไว้นานถึง 5 ชั่วโมง จะทำให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อได้ถึง 100% เลยทีเดียว

ตากแดดและตบทำความสะอาดที่นอนทุก 1-3 เดือน

          ควรนำที่นอนออกไปตากแดดทุก 1-3 เดือน เพื่อให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อ และในระหว่างที่ตากแดดนั้น ให้หาหวายหรือไม่มาตีที่นอน เพื่อให้ซากไรฝุ่น และสิ่งปฎิกูลต่าง ๆ (มูลของไรฝุ่น ไรฝุ่นที่ตายแล้ว ไข่ของไรฝุ่นที่ฝ่อ) หลุดออกไป

11
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็งเต้านม (Breast cancer)

มะเร็งเต้านม พบเป็นอันดับที่ 2 ของมะเร็งในผู้หญิง เริ่มพบได้ตั้งแต่วัยสาว และพบมากขึ้นตามอายุ ส่วนมากจะพบในช่วงอายุมากกว่า 40 ปี มะเร็งเต้านมพบว่ามีความสัมพันธ์กับการมีระดับเอสโทรเจนในเลือดสูงเป็นเวลานาน

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าเกิดจากปฏิสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างปัจจัยทางกรรมพันธุ์กับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

พบว่าร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยมีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ คือ มียีนที่เรียกว่า "ยีนมะเร็งเต้านม (breast cancer gene, BRCA)" ซึ่งสามารถถ่ายทอดให้ลูกหลาน ผู้ที่มียีนนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่

พบว่าโรคนี้มีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่

    มีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน
    มีประวัติว่ามารดาหรือพี่น้องเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ ถ้ามีญาติเป็นมะเร็งเต้านมก่อนวัยหมดประจำเดือน ยิ่งมากคนก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น
    การมีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
    การมีภาวะหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี
    การมีบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี หรือการไม่มีบุตร
    การใช้ฮอร์โมนทดแทนหลังวัยหมดประจำเดือนนานเกิน 4 ปี
    การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อยและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมก่อนวัยหมดประจำเดือน
    ภาวะอ้วน
    การสูบบุหรี่
    การดื่มสุราจัด
    การได้รับรังสีตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยสาว

อาการ

ระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน ต่อมาจะมีอาการคลำได้ก้อนที่เต้านม หัวนมบุ๋ม (จากเดิมที่ปกติ) เต้านมใหญ่ขึ้นหรือรูปทรงผิดปกติ มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกจากหัวนม หรือผิวหนังตรงเต้านมมีสีแดงและขรุขระคล้ายผิวส้ม ในระยะท้ายอาจคลำได้ก้อนน้ำเหลืองที่รักแร้

ภาวะแทรกซ้อน

มะเร็งเต้านมที่เป็นก้อนโตขึ้นอาจทำให้มีอาการเจ็บปวดทรมาน

ในระยะท้าย มะเร็งมักแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน อาทิ

    ปอด ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด ภาวะมีน้ำหรือเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอด หายใจลำบาก
    ตับ ทำให้เจ็บใต้ชายโครงขวา อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง มีน้ำในท้อง (ท้องมาน)
    กระดูก ทำให้ปวดกระดูก กระดูกพรุน กระดูกหัก ปวดหลัง ไขสันหลังถูกกดทับ (ขาชาและเป็นอัมพาต มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ) ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง (ทำให้เป็นนิ่วไต ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ สมองเสื่อม หมดสติ)
    สมอง ทำให้ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ แขนขาชาและเป็นอัมพาต ชัก หมดสติ สมองเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการตรวจอัลตราซาวนด์ ถ่ายภาพรังสีเต้านม (mammogram) และการผ่าหรือเจาะเอาชิ้นเนื้อเต้านมไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ (breast  biopsy)

ถ้าพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม อาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อดูการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ปอด กระดูก สมอง ด้วยการตรวจอัลตราซาวนด์, เอกซเรย์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์,  การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), การตรวจสแกนกระดูก, การตรวจเพทสแกน (PET scan) เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดเต้านม (อาจตัดเต้านมออกบางส่วน หรือตัดออกทั้งหมด) พร้อมกับเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออก

นอกจากนี้จะให้การรักษาเสริมด้วยรังสีบำบัด เคมีบำบัด ฮอร์โมนบำบัด (โดยให้กินยาทาม็อกซิเฟน-tamoxifen ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเอสโทรเจน) อิมมูนบำบัด (โดยการให้อินเตอร์เฟอรอน หรือ monoclonal antibody) และ/หรือการใช้ยาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy drug)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่ได้ผลดี ถ้าเป็นระยะแรกมักจะมีชีวิตอยู่ได้นานหรือหายขาด (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปี มากกว่าร้อยละ 95) แต่ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปทั่วร่างกายแล้ว ก็มักจะได้ผลไม่สู้ดี (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปี ประมาณร้อยละ 20-25)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น คลำได้ก้อนที่เต้านม หรือสังเกตเห็นเต้านมมีลักษณะผิดปกติ เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก  กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มสุราจัด และการใช้เอสโทรเจนเป็นเวลานาน
    หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
    กินผักและผลไม้ให้มาก ๆ
    ลดการบริโภคเนื้อแดง
    ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    หมั่นเลี้ยงบุตรด้วยนมตัวเอง (พบว่ามารดาที่ให้บุตรดื่มนมตัวเองนานเกิน 2 ปี ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมลง)
    ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติโรคนี้ในครอบครัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาตรวจเลือดหา "ยีนมะเร็งเต้านม (breast cancer gene, BRCA)" และผู้ที่ตรวจพบว่ามีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจพิจารณาให้กินยาป้องกัน ได้แก่ ยาต้านเอสโทรเจน (เช่น tamoxifen, raloxifene เป็นต้น) หรือในบางกรณีแพทย์อาจป้องกันด้วยการผ่าตัดเต้านมออกไป

ข้อแนะนำ

1. เนื่องจากการค้นพบมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะแรกเริ่มมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นผู้หญิงทุกคนควรตรวจเต้านมด้วยตนเอง พบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมหรือถ่ายภาพรังสีเต้านม ตามเกณฑ์อายุดังนี้

    อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างน้อยเดือนละครั้ง
    อายุ 30-39 ปี ควรพบแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับการฝึกอบรม เพื่อตรวจเต้านมทุก 3 ปี และอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจปีละครั้ง
    อายุระหว่าง 40-44 ปี ควรเริ่มรับการตรวจหามะเร็งระยะแรกเริ่ม (โดยที่ยังเป็นปกติดี คือ ยังคลำไม่ได้ก้อนที่เต้านมแต่อย่างใด) ด้วยการถ่ายภาพรังสีเต้านม (mammography) เป็นครั้งแรก, อายุ 45-54 ปี ควรตรวจปีละครั้ง และอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุก 1-2 ปี

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น มีประวัติโรคนี้ในครอบครัว) อาจจำเป็นต้องตรวจถี่กว่าปกติ

2. หากตรวจพบก้อนที่เต้านม ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด ไม่ควรนิ่งนอนใจ ปล่อยปละละเลย หรือกลัวและไม่กล้าไปตรวจกับแพทย์ ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับการเยียวยารักษาให้ได้ผลดีตั้งแต่แรก จริง ๆ แล้วก้อนที่เต้านมไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเสมอไป แต่เนื่องจากการตรวจคลำด้วยมือไม่อาจแยกว่าเป็นเนื้อดีหรือร้ายได้ จำเป็นต้องให้แพทย์ทำการตรวจเพิ่มเติม

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

 การตรวจเต้านมด้วยตนเอง

1. การคลำเต้านมในท่ายืน ใช้ฝ่ามือด้านตรงข้ามคลำตรวจเต้านมทีละข้าง สังเกตดูว่ามีก้อนอะไรดันอยู่หรือสะดุดใต้ฝ่ามือหรือไม่ (มะเร็งของเต้านมมักจะพบที่ส่วนบนด้านนอกของเต้านมมากกว่าส่วนอื่น จึงควรสังเกตดูบริเวณนี้ให้ละเอียด)

2. และ 3. การดูเต้านมตรงหน้ากระจกเงา ในท่ามือเท้าเอวและท่าชูมือขึ้นเหนือศีรษะ สังเกตดูลักษณะเต้านมทั้ง 2 ข้างโดยละเอียด เปรียบเทียบดูขนาด รูปร่างของหัวนม และการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังทุกส่วนของเต้านม (เช่น รอยนูนขึ้นผิดปกติ รอยบุ๋ม หัวนมบอด ระดับของหัวนมไม่เท่ากัน)

4. การคลำเต้านมในท่านอน ควรใช้หมอนหรือผ้าห่มหนุนตรงสะบัก ให้อกด้านที่จะตรวจแอ่นขึ้น ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ

5. (ในท่านอน) ใช้ฝ่ามือข้างซ้ายคลำเต้านมข้างขวาโดยคลำไปรอบ ๆ หัวนมเป็นรูปวงกลม ไล่จากด้านนอกเข้ามายังหัวนม

6. แล้วใช้นิ้วบีบหัวนม สังเกตดูว่ามีน้ำเหลือง หรือเลือดออกจากหัวนมหรือไม่ ให้ทำการตรวจเต้านมข้างขวาโดยใช้มือซ้าย ทำซ้ำข้อ 4, 5, 6

12
ตรวจอาการด้วยตนเอง: กระดูกหัก (Fracture/Broken bones)

กระดูกหัก เป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

กระดูกหักแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้เเก่

1. กระดูกหักชนิดธรรมดา (simple fracture/closed fracture) จะมีอาการกระดูกหักเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีบาดแผลที่ผิวหนัง และกระดูกจะไม่โผล่ออกนอกผิวหนัง

2. กระดูกหักชนิดซับซ้อนหรือมีบาดแผล (compound fracture/open fracture) จะมีบาดแผลซึ่งลึกถึงกระดูก หรือกระดูกที่หักอาจทิ่มแทงทะลุออกนอกเนื้อ ถือเป็นชนิดร้ายแรง อาจทำให้ตกเลือดรุนแรง เส้นประสาทถูกทำลาย หรือติดเชื้อได้ง่าย เป็นสาเหตุที่ทำให้สูญเสียแขนขาได้

สาเหตุ

ส่วนมากมักเกิดจากการได้รับบาดเจ็บ เช่น หกล้ม รถคว่ำ รถชน เป็นต้น

ในผู้สูงอายุ กระดูกเสื่อม ผุและเปราะ จึงมีโอกาสหักง่าย เมื่อถูกแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย ที่พบได้บ่อย คือ กระดูกต้นขาและสะโพกหัก

อาการ

บริเวณที่หักมีลักษณะบวม เขียวช้ำ เจ็บปวด ซึ่งจะเป็นมากเวลาเคลื่อนไหวหรือใช้มือกดถูก บางรายอาจรู้สึกเคลื่อนไหวส่วนนั้นลำบาก (ถึงแม้จะเคลื่อนไหวได้ตามปกติก็อาจหักได้เช่นกัน)

แขนขาส่วนที่หัก อาจมีลักษณะผิดรูปผิดร่าง เช่น โก่งงอ หรือสั้นกว่าข้างที่ดี

บางครั้งถ้าลองจับกระดูกบริเวณนั้นดู อาจได้ยินเสียงกระดูกสีกัน หรือรู้สึกกรอบแกรบ

แต่กระดูกบางแห่ง เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาจมีอาการบวมและปวดเพียงเล็กน้อย จนเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงข้อเคล็ดข้อแพลงก็ได้

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้กระดูกที่หักต่อกันได้ไม่ดี ทำให้แขนขาโก่งได้

ถ้าเป็นกระดูกหักชนิดซับซ้อน อาจทำให้หลอดเลือดแดงฉีก ตกเลือดรุนแรงถึงช็อกได้ หรืออาจทำให้เส้นประสาทฉีกขาดเป็นอัมพาตและชาได้ หรือไม่ก็อาจมีการติดเชื้อรุนแรง จนกลายเป็นโลหิตเป็นพิษได้ บางรายอาจติดเชื้อเรื้อรังกลายเป็นกระดูกอักเสบเป็นหนองเรื้อรัง (chronic osteomyelitis)

สำหรับผู้สูงอายุที่มีกระดูกต้นขาหรือสะโพกหักซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการหกล้ม อาจทำให้เป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง เกิดภาวะแทรกซ้อน (เช่น โรคปอดอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ แผลกดทับ) มีความยุ่งยากในการดูแลรักษาและเสียชีวิตได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ และยืนยันการวินิจฉัยโดยเอกซเรย์ดูลักษณะการหักของกระดูก


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การปฐมพยาบาล เช่น ห้ามเลือด ใส่เฝือกหรือดามกระดูกส่วนที่หักไว้ ถ้าช็อกให้น้ำเกลือแล้วให้การรักษาโดยพยายามดึงกระดูกให้เข้าที่ (ถ้าจำเป็นอาจต้องดมยาให้ผู้ป่วยสลบ) แล้วใส่เฝือกปูนปลาสเตอร์ไว้

ถ้ากระดูกต้นขาหัก บางครั้งอาจต้องให้ผู้ป่วยนอนบนเตียง แล้วใช้น้ำหนักถ่วงดึงให้กระดูกเข้าที่ ผู้ป่วยอาจต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เป็นสัปดาห์ ๆ

ในบางรายอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ใช้เหล็กดามกระดูกไว้

หากกระดูกหักแหลกละเอียด หรือมีบาดเเผลเหวอะหวะที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง อาจต้องรักษาด้วยการตัดแขนหรือขาส่วนนั้นทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยเสียก่อน เมื่อแผลหายแล้ว จึงค่อยให้ผู้ป่วยใส่แขนขาเทียม ซึ่งจะช่วยให้เดินและทำงานได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย ควรให้การปฐมพยาบาล แล้วรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่ากระดูกหัก ควรดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

การปฐมพยาบาลกระดูกหัก

1. ถ้าพบว่ามีบาดแผลในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่มีกระดูกหักร่วมด้วย และมีเลือดออก ควรทำการห้ามเลือด ดังนี้

    ถ้าบาดแผลเล็ก ควรใช้ผ้าสะอาดพันทบหนา ๆ หลายชั้น วางบนปากแผลแล้วใช้นิ้วหรือ อุ้งมือ กดห้ามเลือด หรือใช้ผ้าพันรัดให้เเน่น
    ถ้าบาดแผลใหญ่ และเลือดไหลรุนแรง ควรใช้ผ้า เชือก หรือสายยางรัดเหนือบาดแผลประมาณ 1 ฝ่ามือ ให้เเน่นพอที่จะห้ามเลือดได้ เรียกว่า การรัดทูร์นิเคต์ (tourniquet) หรือการขันชะเนาะ แล้วรีบนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ควรจดเวลาที่เริ่มขันชะเนาะ และแจ้งให้แพทย์ทราบถึงระยะเวลาของการขันชะเนาะ เพื่อวางแผนในการรักษา

2. สำหรับกระดูกหักแบบปิด คือ กระดูกหักอยู่ภายใน โดยไม่มีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรปฏิบัติดังนี้

    ทำการดามกระดูกส่วนที่หัก โดยใช้แผ่นไม้ กระดาษแข็ง หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พับทบหลาย ๆ ชั้น ทำเป็นเฝือกวางแนบส่วนที่หัก โดยให้ปลายทั้ง 2 ข้างครอบคลุมถึงข้อที่อยู่เหนือและใต้ส่วนที่หัก ใช้ผ้าพันยึดไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว
    ถ้าเป็นปลายแขนหรือมือ ให้ใช้ผ้าคล้องคอ
    ถ้าเป็นที่ขา อาจใช้ขาข้างที่ดีทำเป็นเฝือกแทน โดยใช้ผ้าหรือกระดาษหนา ๆ วางคั่นตรงกลางขาทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้ผ้าพันรอบขาทั้ง 2 ข้างหลาย ๆ เปลาะ
    ถ้าปวดกินพาราเซตามอล* บรรเทา

3. สำหรับกระดูกหักแบบเปิด คือ มีบาดแผลที่ผิวหนัง และกระดูกโผล่ออกนอกเนื้อ ควรปฏิบัติ ดังนี้

    ห้ามดึงกระดูกให้กลับเข้าที่ เพราะจะทำให้เชื้อโรคและสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปในบาดแผล ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ยังทำให้เจ็บปวดมากขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อที่ใต้ผิวหนัง (เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นเลือด และเส้นประสาท) ได้
    ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด (น้ำต้มสุก หรือน้ำขวดที่ใช้ดื่ม) หรือน้ำเกลือ (ที่ใช้ทางการแพทย์) ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือปิดคลุมกระดูกที่โผล่ออกมาไว้
    ใช้ไม้หรือกระดาษแข็งดามแขนหรือขาที่มีกระดูกหัก (ในท่าที่แขนหรือขาคดงออยู่แต่แรกก็ได้ ไม่จำเป็นต้องดามในท่าเหยียดตรง) หรือพยายามพยุงให้ส่วนที่บาดเจ็บให้อยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน
    ถอดเครื่องประดับ (เช่นแหวน กำไล) ออกจากปลายแขนหรือขาที่มีกระดูกหัก หากปล่อยไว้จนมีอาการบวมแล้วจะถอดได้ยาก หรือทำให้เกิดอันตรายได้
    ยกแขนหรือขาที่มีกระดูกหักให้สูงกว่าลำตัว และใช้ความเย็น (เช่น น้ำแข็งใส่ถุงสะอาด) ประคบบริเวณใกล้บาดแผลเพื่อบรรเทาปวด ถ้ายังมีอาการปวด กินพาราเซตามอล* บรรเทา
    ถ้ามีเลือดออกให้ทำการห้ามเลือด ด้วยการใช้ผ้าสะอาดกดแรง ๆ บริเวณรอบ ๆ บาดแผล อย่ากดโดนกระดูกที่โผล่ออกมา หรือกรณีที่มีเลือดออกมาก ใช้วิธีขันชะเนาะเหนือบาดแผลประมาณ 1 ฝ่ามือให้แน่นจนห้ามเลือดได้
    ถ้ามีภาวะช็อก (หน้าซีด เหงื่ออก ตัวเย็น หน้ามืด จะเป็นลม) ให้ทำการปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยนอนราบศีรษะต่ำ หาอะไรมารองที่ใต้เท้าหรือยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ ใช้ผ้าหนา ๆ หรือผ้าห่มคลุมหรือห่อตัวให้อบอุ่น
    รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือติดต่อรถพยาบาลมารับ

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

ระมัดระวังป้องกันตัวเองในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ และการหกล้ม

ข้อแนะนำ

1. กระดูกที่หักสามารถต่อกันได้เองโดยธรรมชาติ การรักษาจึงอยู่ที่การดึงกระดูกให้เข้าที่เเละตรึง (ดาม หรือ เข้าเฝือก) ไว้ อย่าให้เลื่อนจากแนวปกติ รอให้กระดูกต่อกันเองจนสนิท ซึ่งอาจกินเวลา 1-3 เดือน ขึ้นกับอายุ (เด็กหายเร็วกว่าผู้ใหญ่) ตำแหน่งที่หัก (แขนหายเร็วกว่าขา) และลักษณะของกระดูกหัก

2. วิธีการรักษากระดูกหักของแพทย์มีได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับตำแหน่งและลักษณะของกระดูกหัก ถ้าเป็นกระดูกหักชนิดธรรมดา มักจะต้องดึงกระดูกเข้าที่ แล้วใส่เฝือกปูน แล้วนัดมาตรวจเป็นระยะจนกว่าจะหายสนิทจึงถอดเฝือกออก

ถ้าเป็นกระดูกหักชนิดซับซ้อน การรักษาอาจยุ่งยากขึ้น อาจต้องผ่าตัด

มีผู้ป่วยเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่อาจต้องพิจารณาให้ตัดแขนหรือขาส่วนนั้นทิ้ง เนื่องจากกระดูกหักอย่างรุนแรง ปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายถึงตายได้

     3. ชาวบ้านมักมีความเชื่อและความกลัวอย่างผิด ๆ เกี่ยวกับการรักษากระดูกหักของแพทย์ เช่น

    เชื่อว่าใส่เฝือกปูนหนา ๆ อาจทำให้เนื้อเน่าอยู่ในเฝือก
    รู้สึกว่าการให้ผู้ป่วยนอนบนเตียงและใช้น้ำหนักถ่วงกระดูกให้เข้าที่ เป็นเรื่องที่น่าทรมาน หรือไม่ก็คิดว่าแพทย์ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น
    กลัวที่จะถูกตัดแขน ตัดขา เป็นต้น

ดังนั้น แพทย์ผู้รักษาควรใช้หลักจิตวิทยาในการพูดคุยชี้แจงให้ผู้ป่วยเข้าใจวิธีการรักษาของแพทย์

13
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


14
เที่ยวระนอง ถวายดอกบัวในโถแก้ว เข้าโบสถ์ วัดบ้านหงาว ไหว้หลวงพ่อดีบุก

ได้เดินทางมา เที่ยวระนอง และได้แวะไปวัดบ้านหงาว เพื่อสักการะ หลวงพ่อดีบุก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” มีความหมายว่า พระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่ ที่เป็นสิริมงคล และศักดิ์ศรีของเมืองระนอง นั่นเอง

เที่ยวระนอง ไหว้สักการะหลวงพ่อดีบุก เที่ยววัดบ้านหงาว

การเดินทางมาที่วัดบ้านหงาว ในครั้งนี้ เรามาตาม Google Map ที่นำทางมาจนถึงที่หน้าวัด บอกเลยว่า พระอุโบสถสวยมาก เป็นพระอุโบสถ 2 ชั้น อยู่ท่ามกลางขุนเขา พระอุโบสถกว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร รอบๆเทคอนกรีตเป็นลานกว้าง มีลูกกรงล้อมรอบดูสวยงาม มีอาคารจัตุรมุขกว้าง มีบันไดขึ้นลงได้ทั้ง 4 ทิศ เหนือ ใต้ ตะวันออก และ ตะวันตก

ตรงบันไดด้านหน้าทางขึ้นนั้น มีรูปปั้นขององค์พญานาค สีเขียว อยู่ที่บันไดทางขึ้น ที่สวยงามมาก เมื่อมาถึงที่ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน มีนามว่า “หลวงพ่อดีบุก” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่สีตะกั่ว สวยงาม องค์ใหญ่ เป็นที่สักการะ ทั้งคนในชุมชน และนักท่องเที่ยว จิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ แกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ได้อย่างปราณีต และงดงามยิ่งนัก

ไร่หนึ่งอรุณ ได้นำดอกบัวอบแห้งคู่หนึ่ง พร้อมกับ ชุดสังคทาน ถวายแด่ท่านเจ้าอาวาส และท่านได้อนุญาตให้นำดอกบัวอบแห้งคู่นี้ นำมาตั้งวางไว้ที่ในพระอุโบสถแห่งนี้ เป็นที่ปราบปลื้มใจยิ่งนัก ” ข้าพเจ้า ไร่หนึ่งอรุณ ขอถวาย ดอกบัวอบแห้ง คู่นี้ เป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ”

ด้านล่างของอุโบสถเป็นห้องโถง ใช้สำหรับการประชุมสัมมนา ต่างๆได้ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ที่เก็บรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า ประวัติความเป็นมาของชาวระนอง นอกจากนี้ยังมีวังมัจฉา ที่มีพันธุ์ปลาน้ำจืดหลากหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารได้

ที่บริเวณภูเขาด้านหลังของวัด มีบันไดคอนกรีต มากกว่า 300 ขั้น ที่สามารถเดินขึ้นไปบนยอดภูเขา เป็นสถานที่สำหรับชมวิวทิวทัศน์ ของจังหวัดระนองได้รอบ 360 องศา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อีกแห่งหนึ่งของภาคใต้
ประวัติ วัดบ้านหงาว จังหวัดระนอง

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ในปีนั้น ได้มีพระธุดงค์ นามว่า หลวงพ่อเขียด ท่านเป็นพระที่มีอายุพรรษามากรูปหนึ่ง ท่านธุดงค์มาจากจังหวัดปัตตานี มาปักกรดโปรดสัตว์อยู่ที่บริเวณสถานีอนามัยตำบลหงาว เมื่อชาวบ้านมาเห็น จึงเกิดศรัทธายิ่งนัก จึงพากันมาทำบุญ และฟังธรรมเทศนา

หลวงพ่อเขียด ท่านมีปฏิปทาน่าเคารพเลื่อมในมาก โดยได้ให้ความเมตตาช่วยเหลือชาวบ้านในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างดี ชาวบ้านจึงนิมนต์ ให้ท่านอยู่จำพรรษาที่บ้านหงาว โดยคุณแม่ลำไย สกุลสิงห์ คหบดีในตำบลหงาว อุทิศที่ดินจำนวน ๒ ไร่ สร้างเป็นที่พักสงฆ์ หลวงพ่อเขียด ท่านรับนิมนต์ และย้ายไปปักกรดในที่ดินที่คุณแม่ลำไย อุทิศให้ คือบริเวณที่ตั้งวัดบ้านหงาวในปัจจุบันนี้

หลวงพ่อเขียด ได้ขอบิณฑบาตกระดานโลงศพ ในส่วนที่เป็นฝาและท้องโลงศพ ที่ชาวบ้านนำศพไปเผาแล้วถอดออก เพื่อทำเป็นเชื้อไฟนำมาทำเป็นกุฏิของท่าน หลวงพ่อเขียดเป็นพระธุดงค์ ชอบความสงบ วิเวก เมื่อสร้างที่พักสงฆ์เสร็จแล้ว มีพระภิกษุสามเณรมาอยู่กันมาก คนเริ่มเข้าวัดมากขึ้น ท่านเห็นว่ามีพระอยู่กันหลายรูปแล้ว ในปี พ.ศ. 2502 ท่านก็จาริกธุดงค์ไปที่อื่น โดยไม่มีใครทราบว่าท่านธุดงค์ไปที่ไหนจนกระทั่งปัจจุบันนี้

ต่อจากนั้นมา ที่พักสงฆ์บ้านหงาว ก็ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นสำนักสงฆ์สาขาวัดอุปนันทาราม โดยมีพระครูสมุห์นิคม อรุโณ มาอยู่เป็นเจ้าสำนัก จึงมีการพัฒนาและก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น กุฏิพระสงฆ์ หอฉัน ศาลาการเปรียญ เพื่อเตรียมการขอตั้งเป็นวัดให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกรมการศาสนา

ดร.แหลม พิชัยศรทัต ซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทไซมัสกินซินทีเกรด ทำธุรกิจเหมืองเรือขุดแร่อยู่ในตำบลหงาว และเป็นกำนันอยู่ในตำบลหงาวขณะนั้น ท่านได้ของบประมาณจากทางจังหวัดมาสร้างเมรุเผาศพ และขอบริจาคที่ดินจากผู้ที่มีที่ดินติดกับวัด จึงทำให้วัดบ้านหงาวมีที่ดินเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น ๒๒ ไร่ เศษ ดังในปัจจุบันนี้

ในปี พ.ศ. 2530 จึงได้ยกฐานะจากสำนักสงฆ์ขึ้นเป็นวัด โดยใช้ชื่อว่า “วัดบ้านหงาว” มีพระอธิการน้อม จนฺทสโร เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก พระอธิการน้อม มรณภาพในปี พ.ศ. 2532 ทางคณะสงฆ์จังหวัดระนองจึงได้ส่ง พระสมุห์โกศล กุสโล (อาจารย์ฉลวย กุสโล) มาเป็นเจ้าอาวาสแทน ท่านเป็นพระนักพัฒนา ท่านได้วางแผนพัฒนาวัดบ้านหงาวอย่างต่อเนื่อง สร้างกุฏิ หอฉัน ศาลาการเปรียญ เมรุเผาศพขึ้นใหม่

รวมทั้งจัดตั้งแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดขึ้นในเหมืองเก่า หาพันธุ์ปลามาปล่อย และตั้งชื่อขุมเหมืองแร่เก่านี้ว่า “วังมัจฉา” มีพันธุ์ปลาน้ำจืดที่หายาก มากมาย จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนองในปัจจุบัน

อุโบสถวัดบ้านหงาว เป็นอุโบสถ 2 ชั้น หรือที่เรียกว่า อุโบสถลอยฟ้า กว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร รอบอุโบสถเทคอนกรีตเป็นลานกว้างมีลูกกรงล้อมรอบ ในแต่ละมุมทั้ง 4 ด้าน มีอาคารจัตุรมุขกว้าง มีบันไดขึ้นลงรอบทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ด้านล่างของอุโบสถเป็นห้องโถงใช้สำหรับการประ ชุมสัมมนา

ภายในอุโบสถวัดบ้านหงาว เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน มีนามว่า “หลวงพ่อดีบุก” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีชื่อเป็นทางการว่า “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” อันมีความหมายว่า “พระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่เป็นสิริมงคลและศักดิ์ศรีของเมืองระนอง” และยังมีความสวยงามของฝาผนังที่แกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ อีกด้วย

ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดบ้านหงาว ภายในจะแสดงเรื่องราวการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกร ที่ชาวระนองวัดบ้านหงาว ได้บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของจังหวัดระนอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จหลายครา ตั้งแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน

ทำให้คนในชุมชนมีความพออยู่พอกิน หาเลี้ยงพึ่งพาตนเองได้ ลูกหลานระนองทุกคนมีความเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ระนองเป็นเมืองแห่งความจงรักภักดี พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งมีการรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ทั้งพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยต่าง ๆ เครื่องมือในการร่อนแร่ ครกบดหิน เงินตราสมัยต่าง ๆ ตลอดถึงภาพเก่า ๆ ที่สามารถเล่าเรื่องอดีตให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า

วัดบ้านหงาว มีมรดกทางวัฒนธรรมและมีธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์ ภูเขาหญ้าที่สวยงาม ช่วงวันออกพรรษา ที่นี้จะมีการตักบาตรเทโว ที่พระสงฆ์เดินลงเป็นสายทางยาวลงบันได จำนวน 343 ขั้น จากยอดเขาลงมา ให้พุทธศาสนิกชน ได้ตักบาตร เสมือนหนึ่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาโปรดมนุษย์ เนื่องในวันออกพรรษา ประชาชนในชุมชนได้ร่วมทำบุญ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า เป็นชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวรต้นแบบ ที่กระทรวงวัฒนธรรมส่งเสริมให้เป็นชุมชนบวร On Tour ที่ควรภาคภูมิใจและไปเยี่ยมเยือน


15
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส เสี่ยงทำให้เชื้อโรคเข้าช่องปากได้หรือไม่

การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้การรักษามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้ ทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของลักษณะฟันได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การจัดฟันแบบจึงได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันแล้ว การจัดฟันแบบใส ยังช่วยทำให้การใช้ชีวิตประจำง่ายขึ้นด้วย ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ส่งผลให้ฟันของผุ้เข้ารับการรักษาสวยงามได้แม้อยู่ในช่วงของการจัดฟัน พร้อมทั้งยังช่วยทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ทั้งตอนรับประทานอาหารและในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังมีข้อจำกัดที่น้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป เพราะเครื่องมือการจัดฟันที่สามารถถอดออกได้ ทำให้มีความสะดวกสบาย แต่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ ซึ่งการถอดเข้าออกของเครื่องมือการจัดฟัน หลายคนอาจจะกังวลว่า จะทำให้เราเกิดความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากหรือไม่ วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสุ่ช่องปากของเรา โดยมีเครื่องมือการจัดฟันเป็นพาหะ

ซึ่งในการจัดฟันแบบใส เราต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้เครื่องมือการจัดฟันจะสามารถถอดออกได้ แต่มีความสะดวกในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน แต่ในเรื่องของการทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันทั้งก่อนและหลังการใช้งาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หลายคนที่เคยสวมใส่รีเทนเนอร์อาจจะเคยสัมผัสกับประสบการณ์ที่ต้องถอดรีเทนเนอร์ออกกอ่นขณะรับประทานอาหารหรือขณะแปรงฟัน ซึ่งก็มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เราเผลอลืมได้ บางคนใช้วิธีการเก็บรีเทนเนอร์ขณะรับประทานอาหารด้วยการนำกระดาษทิชชู่มาห่อไว้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้มักจะพบได้บ่อยมากในกลุ่มผุ้ที่เข้ารับการจัดฟันและสวมใส่รีเทนเนอร์ ต้องอธิบายก่อนว่า การนำเอาทิชชู่มาห่อรีเทนเนอร์ หรือเครื่องมือการัดฟันแบบใสนั้น เป็นวิธีการที่ผิด เพราะทิชชู่ที่เรานำมาห่ออาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ไม่สะอาด  ซึ่งเสี่ยงต่อการที่เรานำเอาเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากได้ บางคนอาจจะเผลอลืมจนที่ร้านอาหาร นำเอาไปทิ้งในถังขยะ ซึ่งนั่นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว

ดังนั้น เราควรที่ดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องมือการจัดฟันที่ถูกต้อง ควรมีกล่องที่ใช้สำหรับเก็บเครื่องมือการจัดฟัน เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยของผู้เข้ารับการจัดฟัน ดังนั้น ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการนำเชื้อโรคเข้าสู้ช่องปาก เพียงแค่เราจะต้องรักษาความสะอาดของเครื่องมือการจัดฟัน รวมไปถึงกล่องหรือที่เก็บเครื่องมือการจัดฟันจะต้องมีความสะอาดด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อให้ลดความเสี่ยงของการสัมผัสเชื้อโรค

หากสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามาถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก Invisalign ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้ ตามมาตรฐานสากล

หน้า: [1] 2 3 ... 43






















































smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์

มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง