จัดฟันบางนา: ใครบ้างไม่ควรฟอกสีฟันกลุ่มคนวัยทำงานหลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากคนในวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมการรับประทานของรับประทานเล่นในระหว่างวัน รวมไปถึงชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ ทำให้สีของฟันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งพฤติกรรมการรับประทานอาหารในรูปแบบนี้เอง จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพของปากและฟันได้ การเปลี่ยนสีของฟันจากเกิดจากคราบสีฟันนอกตัวฟัน เป็นการเกิดการเปลี่ยนสีที่ชั้นนอกสุด สาเหตุของการเปลี่ยนสี เช่น การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ชา กาแฟ การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ การดูแลสุขภาพฟันที่ไม่ดี
เนื่องจากมีแบคทีเรียบางชนิดสามารถสร้างสารย้อมสีทิ้งไว้บนฟัน หรือการใช้ยาในกลุ่มธาตุเหล็ก ยากลุ่มมิโนไซคลิน และคลอเฮกซิดีน ซึ่งยาเหล่านี้สามารถทิ้งคราบสีดำได้ อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีตัวฟันนั่นเอง แต่การฟอกสีฟันก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งก็มีหลายคนที่มีปัญหาฟันที่อยากจะเข้ารับการรักษาด้วยการฟอกสีฟัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ และใครบ้างที่ไม่ควรเข้ารับการฟอกสีฟัน สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงข้อจำกัดในเรื่องของการฟอกสีฟัน ว่าใครบ้างที่ไม่ควรที่ฟอกสีฟัน
สำหรับการการฟอกสีฟัน เป็นการรักษาที่ได้ผลในแง่ของการรักษาสีของฟัน แต่ในขณะเดียวกันการฟอกสีฟัน ก็อาจจะไม่ได้ผลหรือทันตแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้ใช้กับผู้ที่อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถเข้ารับการฟอกสีฟันได้ ซึ่งข้อจำกัดนั้นได้แก่ ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่โพรงประสาทหรือเส้นประสาทในฟันยังมีการเจริญเติบโตอยู่ การฟอกสีฟันระหว่างนี้จะทำให้เกิดความระคายเคืองหรือเสียวที่โพรงฟันตามมาได้ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมไปถึงผู้ป่วยด้วยโรคเหงือกหรือใส่เคลือบฟัน และผู้ที่มีอาการแพ้สารเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไม่ควรรับการฟอกสีฟัน เพราะอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาได้
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการเสียวฟัน เหงือกร่น หรือมีฟันที่ถูกอุด ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเข้ารับการฟอกสีฟันไม่ได้ ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาโพรงฟันที่เป็นหลุมหรือมีรากฟันโผล่ออกมานั้นควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน เนื่องจากสารฟอกฟันขาวจะแทรกซึมผ่านไปยังส่วนของฟันที่ผุและพื้นที่ด้านในของฟันจนก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้ รวมทั้ง ผู้ที่เข้ารับการสวมใส่วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมในปาก เพราะจะไม่ทำให้ฟันขาวขึ้นจากการฟอกสีฟัน และอาจจะส่งผลให้ฟันปรากฏเห็นเป็นสีไม่สม่ำเสมอ และยังทำให้ฟันซี่ที่ปกติมีสีขาวโดดเด่นกว่าฟันที่มีวัสดุดังกล่าว ทางที่ดีจึงควรฟอกสีฟันให้เรียบร้อยก่อนการรักษาฟันด้วยวัสดุเหล่านี้ ผู้เข้ารับการรักษาที่มีฟันที่เป็นปัญหาหลายซี่ ผลการฟอกฟันอาจทำให้สีของฟันไม่สม่ำเสมอได้
และกลุ่มที่อยู่ในข้อจำกัดกลุ่มสุดท้ายคือ ผู้ที่มีฟันเป็นคราบสีเข้ม ฟันสีออกน้ำตาล เพราะจะมีการตอบสนองต่อการฟอกสีฟันได้น้อย และหากเป็นคราบสีเทาหรือม่วงก็อาจไม่ตอบสนองเลย โดยเฉพาะคราบสีเทาอมฟ้าที่เกิดจากการใช้ยาเตตราไซคลีน ซึ่งจะทำให้ขาวขึ้นได้ยาก และอาจต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน แต่ถ้าผู้เข้ารับการรักษาเลือกใช้การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน หรือถ้าทำที่คลินิกก็ต้องมีการนัดหมายหลายครั้ง ทันตแพทย์จึงอาจแนะนำการรักษาทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการฟอกสีฟันได้
ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และไม่ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟัน แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งผลต่อช่องปากได้ เช่น การดื่มกาแฟ ผู้เข้ารับการรักษาอาจจะต้องดื่มน้ำเปล่าตาม หลังจากการรับประทานเครื่องดื่มเสร็จแล้ว เพื่อลดคราบที่อาจจะหลงเหลืออยู่บนผิวฟัน และควรดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ที่มีส่วนช่วยลดคราบบนผิวฟัน เพื่อรักษาสีของตัวฟันให้ดูขาว สาด เป็นธรรมชาติ ทำให้มีวามมั่นใจมากยิ่งขึ้น
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
