ยาชูกำลัง: อาหารเช้าช่วยบำรุงสมอง สดชื่น กระปรี้กระเปร่ามีประโยชน์และดีต่อสุขภาพอาหารเช้าเป็นมื้อที่จำเป็นสำหรับร่างกายและสำคัญกว่ามื้ออื่นๆ วันนี้จะมาแชร์อาหารที่ดีและเหมาะสำหรับทานมื้อเช้ากันนะคะ
1.อัลมอนด์ ให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น เช่น เมนูอัลมอนด์ครีมซอส
2.แอปเปิ้ล ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เช่นเมนูซุปแอปเปิ้ลมันหวานญี่ปุ่น
3.โยเกิร์ต เป็นตัวช่วยให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายดียิ่งขึ้น เช่นเมนู Strawberry cheesecake smoothie
4.ธัญพืช โฮลเกรน เป็นอาหารสมองที่เต็มไปด้วยประโยชน์และคุณค่าทางอาหารมากมาย เช่นเมนู ซุปข้นมันม่วง
5.กล้วย น้ำตาลในกล้วยจะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า และรู้สึกมีพลังมากยิ่งขึ้น เช่นเมนู สมูทตี้กล้วยหอมนมถั่วเหลืองช็อกโกแลต
ทำอย่างไรให้ร่างกายสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน?
ในแต่ละวัน เราแต่ละคนต่างมีกิจวัตรประจำวันที่แตกต่างกันออกไป ทั้งที่ต้องใช้พลังงานมากและน้อย แม้จะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอในค่ำคืนที่ผ่านพ้นมา แต่ก็มีบางครั้งในช่วงระหว่างวันที่เรามีอาการอ่อนล้าอ่อนเพลีย รู้สึกง่วงนอนจนส่งผลกระทบต่อการทำงาน จะทำอย่างไรให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน มีวิธีดูแลตัวเองดีๆ มาฝากกันครับ
1. ดื่มน้ำเปล่าแทนชา / กาแฟ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนนั้นอาจช่วยบูสต์ให้สมองรู้สึกสดชื่นได้ก็จริง แต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ในขณะที่การดื่มน้ำเปล่านั้นจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้นำพาออกซิเจนไปใช้ในร่างกายได้ดีกว่าร่างกายที่ขาดน้ำ
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยควรออกกำลังกายให้ได้เป็นประจำทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้มีประสิทธิภาพ เพราะปอดและหัวใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ร่างกายจึงรู้สึกมีพลังงานและกระปรี้กระเปร่า
3. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งขัดขาว อาหารประเภทแป้งขัดขาวเป็นอาหารที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ง่าย ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้น ทำให้ตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงเกินไป เพียงวันเดียวอาจไม่เป็นไร แต่หากรับประทานติดต่อกันจนเป็นนิสัย ถึงจุดที่อินซูลินถูกตับอ่อนผลิตออกมามากจนเกินไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าเดิม จึงควรหันไปรับประทานแป้งไม่ขัดขาวเช่นข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือแทน จะช่วยได้ครับ
4. รับประทานวิตามินเสริม เช่นในกลุ่มของวิตามินรวม ที่มีวิตามินบี วิตามินซี วิตามินอีเป็นหลัก วิตามินในกลุ่มนี้จะช่วยในการดูแลระบบประสาทและสมอง ทำให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า รู้สึกสดชื่นไม่อ่อนเพลียง่าย ทั้งยังป้องกันการขาดวิตามิน ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้เป็นปกติอีกด้วย เมื่อรู้สึกง่วงหรือเพลีย เพียงรับประทานวิตามินรวมเข้าไป ก็จะช่วยบูสต์พลังกลับมาได้
นอกจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว พฤติกรรมในการใช้ชีวิตบางอย่างก็มีส่วนทำให้เกิดอาการอ่อนล้าอ่อนเพลียได้เช่นกัน เช่นการเข้านอนดึก ทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการนั่งทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ การต้องเปลี่ยนไปทำงานในเวลากลางคืน ฯลฯ หากได้รับการแก้ไข ร่วมกับการใช้เทคนิคข้างต้น อาการอ่อนล้าอ่อนเพลียระหว่างวันก็จะดีขึ้น และมีร่างกายที่สดชื่นตลอดทั้งวันได้ครับ