ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยววัดกรุงเทพฯ ชม 9 วัดพระประธานแปลก ที่คุณไม่ควรพลาด  (อ่าน 110 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 315
  • รับจ้างโพส ผ่านเวปประกาศ-เวปบอร์ด รับจ้างโพสเว็บ เลื่อนประกาศ ราคาไม่แพง
    • ดูรายละเอียด
เที่ยววัดกรุงเทพฯ ชม 9 วัดพระประธานแปลก ที่คุณไม่ควรพลาด

เมืองไทยเมืองแห่งพุทธศาสนา "วัด" จึงเป็นพุทธศาสนสถานที่ชาวพุทธอย่างเราใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วย แค่ในกรุงเทพฯ ก็มีวัดสวยงามมากมาย ทั้งวัดเก่าและวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงการเที่ยวชมพระประธานประจำพระอุโบสถ ที่แต่ละวัดล้วนงดงามด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมของวัดนั้น เหมือนกับที่ คุณ
   
         
9 วัดพระประธานแปลก ในเขตกรุงเทพมหานคร

          กระทู้รีวิววันนี้ไม่ใช่กระทู้ท่องเที่ยวที่ไปมาสด ๆ ร้อน ๆ แต่เป็นการสรุปรวมจากหลาย ๆ วัดที่ผมไปเที่ยวมา ซึ่งแต่แรกผมก็ไม่ค่อยสนใจในการเที่ยววัดเท่าไร จนช่วงปี 1 (ปี 2554) เป็นช่วงที่ผมเพิ่งมีกล้องถ่ายรูปส่วนตัวไม่นานนัก และมหาวิทยาลัยผมมันก็อยู่ใกล้กับวัดสระเกศฯ รวมไปถึงสามารถเดินทางไปยังวัดสำคัญ ๆ ในกรุงเทพมหานครหลายวัดได้โดยสะดวก นับตั้งแต่วันที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวถ่ายรูปภูเขาทองที่วัดสระเกศฯ ก็ทำให้ผมเป็นคนที่ชอบเที่ยวตามวัดหรือแหล่งประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งขณะที่ผมกำลังตั้งกระทู้นี้อยู่ผมไปเที่ยวมาแล้ว 555 วัด (เลขสวยซะด้วย)

          และจากการที่ผมไปเที่ยวมาหลายวัดก็ทำให้ผมได้พบกับหลายวัดที่มีพระประธานสวยงาม หรือปางแปลก ๆ ประดิษฐานอยู่ โดยที่บางวัดอาจจะเป็นวัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก หากแต่ถ้าได้เข้ามาชมแล้วก็จะได้พบกับสิ่งสวยงามที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่

          **หัวกระทู้เขียนว่าวัดพระประธานแปลกก็จริง แต่บางวัดก็ไม่เชิงว่าแปลก แต่แค่ไม่ค่อยพบพระพุทธรูปปางนี้เป็นพระประธานในโบสถ์ นั่นแหละครับคือสิ่งที่ว่าแปลก หรือบางวัดก็เป็นวัดที่พระประธานมีความสวยงามน่าชมมาก**


1. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เขตธนบุรี

          วัดนี้เป็นอีกวัดสำคัญวัดหนึ่งในฝั่งธนบุรี สร้างโดย เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ที่ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณนั้นสร้างเป็นวัด แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ส่วนใหญ่ผู้ที่มาวัดนี้ก็มักจะกราบสักการะ "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือ "หลวงพ่อโตซำปอกง" แต่มีใครทราบบ้างหรือไม่ว่าในพระอุโบสถของวัดนี้มีความแปลกกว่าวัดอื่นตรงที่พระประธานเป็นปางปาลิไลยก์ ซึ่งวัดโดยส่วนมากจะมีพระประธานเป็นปางสมาธิหรือปางมารวิชัย นอกจากที่วัดกัลยาณมิตรแห่งนี้แล้ว ในกรุงเทพฯ ยังมีอีกหนึ่งวัดที่มีพระประธานเป็นปางปาลิไลยก์เช่นกัน นั่นคือ "วัดบางขุนเทียนใน" เขตจอมทอง

          ประวัติของพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์นั้นมีว่าครั้งหนึ่งเหล่าคณะสงฆ์ได้เกิดทะเลาะวิวาทกัน ทำให้พระพุทธเจ้าทรงหลีกหนีไปประทับในป่าแถบหมู่บ้านปาลิไลยกะ ในเวลานั้นได้มีช้างนามว่าปาลิไลยก์นำน้ำร้อนมาถวายพระพุทธเจ้า และยังมีลิงอีกตัวหนึ่งนำรวงผึ้งมาถวาย เมื่อลิงเห็นพระพุทธเจ้าเสวยรวงผึ้งที่ตนนำมาถวายก็ดีใจมากจนก้าวพลาดตกจากต้นไม้ถูกไม้แหลมเสียบอกตาย ภายหลังได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร ต่อมา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จออกจากป่าแล้ว ช้างปาลิไลยก์ก็เสียใจมากจนดวงใจแตกสลายขาดใจตาย ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทำนายว่าในภายภาคหน้า ช้างปาลิไลยก์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระสุมงคลพุทธเจ้า

          สำหรับพระประธานในพระอุโบสถวัดกัลยาณมิตรนี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานช่วยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ที่กำลังจะสร้างพระประธานในพระอุโบสถวัดนี้ โดยพระอุโบสถจะเปิดให้เข้าสักการะพระประธานในทุกวันพระ


2. วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี

          วัดต่อไปเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในฝั่งธนบุรี คือ "วัดอินทารามวรวิหาร" เดิมชื่อ "วัดบางยี่เรือใต้" มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงพอพระราชหฤทัยในวัดนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ในสมัยกรุงธนบุรีวัดนี้ถือเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วย และวัดนี้ยังเคยเป็นที่ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพกรมพระเทพามาตย์ พระราชชนนีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั่นเอง

          หลังสิ้นกรุงธนบุรี วัดนี้ก็ถูกทิ้งร้าง จนเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นขุนคลังแก้วในสมัยนั้นได้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ทั้งยังสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงแด่รัชกาลที่ 3 แต่ถูกลดชั้นลงมาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สิ่งสำคัญในวัดนี้คือมีพระเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และกรมหลวงบาทบริจาริกา (สอน) พระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

          พระพุทธรูปที่แปลกในวัดนี้ไม่ใช่พระประธานในพระอุโบสถครับ แต่จะประดิษฐานในส่วนที่เรียกว่ากุฏิพุทธองค์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 หลัง แต่มีอยู่ 2 หลังที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางที่แปลกและหายาก

          องค์แรกคือ "พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง" ลักษณะเป็นหีบพระบรมศพและมีพระบาทยื่นออกมา มีพระสงฆ์ 3 รูปกราบสักการะ ซึ่งพระสงฆ์ที่อยู่หน้าสุดก็คือพระมหากัสสปะ โดยมีที่มาจากพุทธประวัติ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานและกำลังจะมีพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก็ปรากฏว่าไม่สามารถจุดไฟให้ติดได้ ทำให้ผู้คนคิดว่าคงต้องรอให้พระมหากัสสปะที่กำลังอยู่ในระหว่างธุดงค์มาร่วมพิธี ครั้นพระมหากัสสปะมาถึงแล้วได้ก้มลงกราบสักการะพระบรมศพของพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏว่าพระบาทได้ยื่นออกมาจากหีบพระบรมศพ (หรือผ้าห่อพระบรมศพ) คล้ายจะรับการสักการะจากพระมหากัสสปะ แล้วไฟก็ลุกขึ้นมาเองเป็นที่น่าอัศจรรย์

          ต่อจากนั้นเราจะไปชมในกุฏิพุทธองค์อีกหลังหนึ่ง ซึ่งภายในประดิษฐาน "พระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้าย" โดยปกติแล้วพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนจะตะแคงด้านขวา มีที่มาจากพุทธประวัติในตอนที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ คือพระพุทธเจ้าได้เนรมิตพระองค์เองขึ้นอีกพระองค์หนึ่ง และแสดงปาฏิหาริย์หลายอย่าง เช่น ถาม-ตอบข้อธรรมะด้วยกัน หรือแสดงปาฏิหาริย์กันไปเป็นคู่ ๆ เช่น พระพุทธเจ้าพระองค์จริงได้ประทับในท่าตะแคงขวา พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์เนรมิตก็ตะแคงไปทางซ้ายตรงข้ามกัน เป็นต้น


3. วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี

          วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดอินทารามวรวิหารนัก โดยวัดนี้สร้างมาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงธนบุรี โดยนายกองมอญที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย ต่อมาพระยาพิชัยดาบหักได้บูรณปฏิสังขรณ์และสร้างพระอุโบสถ (ปัจจุบันคือพระวิหาร) ขึ้น และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง และพระราชทานนามว่า "วัดราชคฤห์วรวิหาร"

          พระพุทธรูปปางแปลกในวัดนี้คือ "หลวงพ่อนอนหงาย" หรือ "หลวงพ่อประสบสุข" เป็นพระพุทธรูปนอนหงาย ซึ่งก็คือพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง มีที่มาเหมือนกับพระปางถวายพระเพลิงที่วัดอินทารามวรวิหาร สำหรับประวัติพระนอนองค์นี้มีอยู่ 2 แนวทาง คือ

          1. ชาวเมืองธนบุรีซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยาประสบความเดือดร้อนจากโรคระบาด จึงกราบทูลสมเด็จพระเอกาทศรถ พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น พร้อมกับหาฤกษ์วางเสาหลักเมืองใหม่ด้วย

          2. พระยาพิชัยดาบหักสร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนทหารและชาวบ้านที่ตายในสงคราม


4. วัดนางนองวรวิหาร เขตจอมทอง

          เรายังอยู่ในฝั่งธนบุรีกันอยู่ คราวนี้เราจะไปกันที่วัดนางนองวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ทำให้พระอุโบสถ พระวิหาร ศิลปกรรมต่าง ๆ ภายในวัดเป็นแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 คือมีศิลปะแบบจีนผสมผสานอยู่

          สิ่งสำคัญในวัดนี้คือพระประธานในพระอุโบสถที่มีนามว่า "พระพุทธมหาจักรพรรดิ" เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องแบบพระจักรพรรดิราช ซึ่งก็มีที่มาจากพุทธประวัติในตอนปราบพญาชมพูบดี ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่หลงใหลในทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ ความสวยงามอลังการของปราสาทราชวัง หากพบกษัตริย์เมืองใดที่มีปราสาทราชวังสวยกว่าก็จะใช้ศรวิเศษยิงไปร้อยหูเพื่อคุมตัวมากราบสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ จนกระทั่งวันหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารได้ถูกพญาชมพูบดีคุกคาม จึงมาร้องขอให้พระพุทธเจ้าทรงช่วย พระพุทธเจ้าจึงเนรมิตพระองค์เองเป็นพระเจ้าราชาธิราช เนรมิตพระสาวกทั้งหลายเป็นขุนนางอำมาตย์ เนรมิตพระเวฬุวันมหาวิหารเป็นปราสาทราชวังที่สวยงามยิ่งกว่าของพญาชมพูบดี ครั้นพญาชมพูบดีมาถึงได้พยายามเล่นงานพระพุทธเจ้าด้วยวิธีต่าง ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ พระพุทธเจ้าจึงกลับคืนร่างเดิมและเทศนาพญาชมพูบดีจนเกิดดวงตาเห็นธรรม

          หรืออีกตำนานก็ว่ากันว่าพระพุทธรูปปางทรงเครื่องแบบพระจักรพรรดิราชนี้ หมายถึงพระศรีอาริยเมตไตรยที่ขณะนี้อยู่บนสวรรค์เพื่อรอการจุติลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

          พระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานในพระอุโบสถวัดนางนองนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เครื่องทรงสามารถถอดแยกจากองค์พระได้ ซึ่งรัชกาลที่ 3 ได้โปรดเกล้าฯ ให้นำเอามงกุฎของพระพุทธมหาจักรพรรดิไปไว้บนยอดนภศูลของพระปรางค์วัดอรุณฯ แล้วสร้างมงกุฎองค์ใหม่ถวายแทน ซึ่งบ้างก็ว่าการที่รัชกาลที่ 3 ทรงทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะทรงบอกเป็นนัย ๆ ว่า มีพระประสงค์จะให้เจ้าฟ้ามงกุฎ (ต่อมาครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 4) ได้ครองราชย์สืบต่อจากพระองค์ แต่บ้างก็ว่าเป็นธรรมเนียมแต่โบราณอยู่แล้วสำหรับการนำมงกุฎไปไว้บนยอดเจดีย์หรือยอดพระปรางค์


5. วัดเศวตฉัตรวรวิหาร เขตคลองสาน

          วัดนี้เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยรัชกาลที่  2 ต่อรัชกาลที่ 3 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉัตร กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 1 ได้มีการย้ายและปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่

          สำหรับความแปลกของวัดนี้คือมีพระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก และองค์พระก็อยู่ในท่าของปางมารวิชัยด้วย นามของพระประธานองค์นี้คือ "พระพุทธอังคีรสมุนีนาถ อุรคอาสน์บัลลังก์" (อุรค แปลว่า งู ในที่นี้หมายถึงพญานาค)

          นอกจากนี้แล้วในวัดนี้ยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่อยู่กลางแจ้งนามว่า "พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์" สร้างโดยพระครูวินัยสังวร (มูล) เจ้าอาวาสรูปแรกหลังจากที่กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ย้ายวัดมาอยู่ในที่ปัจจุบันสร้างขึ้น


6. วัดสุทธาราม เขตคลองสาน

          เป็นวัดที่ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2411 (ตรงกับปีแรกที่รัชกาลที่ 5 ขึ้นครองราชย์) พระแปลกในวัดนี้ไม่ได้ประดิษฐานในวิหารหรือในโบสถ์ใด ๆ แต่ที่ด้านข้างอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางที่เรียกว่า "ปางพยาบาลภิกษุอาพาธ"

          มีที่มาจากในพุทธประวัติ ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าทรงพบกับพระภิกษุรูปหนึ่งที่อาพาธหนัก ท้องเสียอย่างรุนแรงโดยที่ไม่มีพระภิกษุรูปใดช่วยดูแลเลย พระพุทธเจ้าจึงทรงเข้าไปประคองพระภิกษุรูปนั้น พร้อมกับตรัสให้เหล่าภิกษุสงฆ์ต้องดูแลกันให้ดี


7. วัดทองศาลางาม เขตภาษีเจริญ

          เป็นวัดที่ไม่ปรากฏประวัติว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สิ่งที่แปลกของวัดนี้คือพระประธานในอุโบสถอีกแล้วครับ ซึ่งพระประธานในโบสถ์ของวัดนี้เป็นปางแสดงปฐมเทศนา โดยมาจากพุทธประวัติในตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ก็มีพระดำริที่จะไปแสดงธรรมโปรดอุทกดาบสและอาฬารดาบส ซึ่งเป็นพระอาจารย์ในช่วงก่อนตรัสรู้ แต่ท่านทั้งสองก็สิ้นชีวิตไปแล้ว ทำให้พระพุทธเจ้าทรงรำลึกถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่ปรนนิบัติในช่วงที่ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา จึงเสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวันที่ปัญจวัคคีย์พำนักอยู่ และแสดงปฐมเทศนาจนโกณฑัญญะเกิดดวงตาเห็นธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา


8. วัดเครือวัลย์วรวิหาร เขตบางกอกใหญ่

          วัดนี้อยู่ใกล้กับวัดอรุณฯ ปัจจุบันเป็นฌาปนสถานกองทัพเรือด้วย สร้างโดย เจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย บุณยรัตพันธุ์) และเจ้าจอมเครือวัลย์ ในรัชกาลที่ 3 ผู้เป็นธิดา ในวัดมีเจดีย์สามองค์ที่บรรจุอัฐิของคนในตระกูลบุณยรัตพันธุ์ด้วย

          สิ่งน่าชมในวัดนี้คือพระประธานในพระอุโบสถที่เป็นปางห้ามญาติ ถือว่าแปลกมากที่มีพระประธานในพระอุโบสถเป็นปางยืน โดยลักษณะของพระประธานนั้นมีความคล้ายกับพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่วัดพระปฐมเจดีย์ จิตรกรรมฝาผนังก็เป็นเรื่องพระเจ้า 500 ชาติ ผมเคยทราบจากพระรูปหนึ่งในวัดว่าพระประธานมีนามว่าพระสรรเพชญ์ ซึ่งหากอยากจะเข้ากราบสักการะพระประธานสามารถไปได้ในเวลา 5 โมงเย็น ที่พระสงฆ์ทำวัตร


9. วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

          ข้ามไปฝั่งพระนครกันบ้างครับ คือวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ก็โปรดเกล้าฯ ให้เหล่าคนจีนที่เดิมอาศัยอยู่ในบริเวณที่เป็นพระบรมมหาราชวังในปัจจุบันย้ายไปอยู่บริเวณสำเพ็ง หลังจากนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท พระอนุชา บูรณปฏิสังขรณ์วัดปทุมคงคาแห่งนี้ขึ้นใหม่ ว่ากันว่าในสมัยนั้นหากมีช้างต้นในพระบรมมหาราชวังล้มลงก็จะมีการนำอัฐิมาลอยอังคารที่หน้าวัดนี้

          พระประธานในพระอุโบสถวัดนี้ มีนามว่า "พระพุทธมหาชนก" เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องแบบจักรพรรดิราชเหมือนพระประธานวัดนางนอง ว่ากันว่าเดิมเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยธรรมดา แต่ก็มีการดัดแปลงให้เป็นปางทรงเครื่องแบบจักรพรรดิราช

 























































เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ